น้ำมัน WTI ปิดร่วง 2.23% กังวลดอกเบี้ยขึ้นส่งผลการใช้น้ำมันชะลอลง

31 ม.ค. 2566 | 00:05 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (30 ม.ค.) โดยปรับตัวลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลที่ว่าธนาคารกลางชั้นนำของโลกเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 77.90 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.76 ดอลลาร์ หรือ 2.03% ปิดที่ 84.90 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมัน WTI ร่วงลง 2.4% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.1%

ธนาคารกลางชั้นนำ 3 แห่งของโลกจะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ โดยเฟดจะเริ่มประชุมในวันอังคารที่ 31 ม.ค.และจะแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.จะเป็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างก็คาดการณ์ซ่า ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้


เดนนิส คิสเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท BOK Financial กล่าวว่า นักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากความกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ ยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า รัสเซียยังสามารถส่งออกน้ำมันได้ในปริมาณมาก แม้ถูกสหภาพยุโรปแบนการนำเข้าน้ำมัน และถูกประเทศกลุ่ม G7 ใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน

รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก รวมทั้งหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเมือง การค้า เศรษฐกิจและพลังงานระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย
 

การหารือดังกล่าวมีขึ้น ก่อนที่คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) จะจัดการประชุมในวันที่ 1 ก.พ. ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ที่ประชุม JMMC จะมีมติให้โอเปกพลัสคงนโยบายปัจจุบันในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2566