นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เป็นหัวหน้าผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการรายสาขาด้านเศรษฐกิจของอาเซียน หรือ (Committee of the Whole: CoW) ครั้งที่ 14 ณ เมืองเซอมารัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจให้สอดประสานกันในระดับเสาประชาคมอาเซียนทั้งสามเสา (ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม) และการทำงานภายในเสาเศรษฐกิจในระดับองค์กรรายสาขาทั้งหมด 23 สาขา
อาทิ การค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า ทรัพย์สินทางปัญญา และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
โดยในปี 2566 อาเซียนมีภารกิจสำคัญที่จะต้องร่วมกันดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์อาเซียนเรื่องการปฏิวัติอุตสาหกรรม (4IR) ครั้งที่ 4 โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิทัล ธรรมาภิบาลทางเทคโนโลยีและความปลอดภัยทางไซเบอร์
และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลเพื่อสังคม การดำเนินการตามกรอบเศรษฐกิจหมุนเวียนของอาเซียน ซึ่งระยะแรกจะนำร่องด้วยการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรม 3 สาขา ได้แก่ พลังงาน ขนส่ง และการเกษตร การดำเนินงานตาม
ยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน เช่นการพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้กลไกตลาดเพื่อกระตุ้นการลดการปล่อยคาร์บอน การลงทุนในเทคโนโลยีลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อให้มีการลงทุนที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่เป็นกลางทางคาร์บอน และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของอาเซียนในห่วงโซ่มูลค่าโลก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ทบทวนแผนงานและวางแนวทางการยกระดับห่วงโซ่มูลค่าโลกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนผ่านการปรับปรุงนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่น การปรับประสานมาตรฐานข้ามพรมแดน การลดมาตรการที่มิใช่ภาษี การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานดิจิทัล การบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน และการสร้างนวัตกรรมอุตสาหกรรม เป็นต้น ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ MSMEs และพัฒนากรอบการช่วยเหลืออาเซียนในการแก้ไขปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) เพื่อวางแนวทางการพัฒนานโยบายด้านเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการปรับกฎระเบียบ การพัฒนาทุนมนุษย์ และเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคอีกด้วย