น้ำมัน WTI พุ่งปิด 89.08 ดอลล์ ขานรับศก.สหรัฐแกร่งดีมานด์ฟื้น

27 ต.ค. 2565 | 23:55 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2565 | 07:00 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการส่งออกน้ำมันดิบสหรัฐที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 89.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 96.96 เพิ่มขึ้น ดอลลาร์/บาร์เรล
         

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับ GDP ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3%


ตัวเลข GDP ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจาก GDP หดตัวลง  1.6% ในไตรมาส 1 และหดตัว 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
         

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกใกล้จะสิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในประเทศจีน โดยนักลงทุนต่างชาติแห่เทขายหุ้นในตลาดหุ้นจีนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์และวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์