บล.เคทีบี (ประเทศไทย)ประเมินทิศทางตลาดหุ้นวันนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงจากวันก่อน

22 ก.ค. 2559 | 03:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) เปิดเผยว่า การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วานนี้ที่คงนโยบายการเงินไว้ ทำให้ตลาดไม่ได้วิตกกังวล ขณะที่ราคาน้ำมัน ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะ oversupply หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากหลังผ่านช่วง Driving Season และตัวเลขส่งออกน้ำมันของกลุ่ม OPEC เดือน ส.ค.จะเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. ทั้งสองปัจจัยนี้ เป็นตัวถ่วงตลาดหุ้นต่างประเทศเช้าวันนี้ (22ก.ค.) รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย  ด้านปัจจัยในประเทศ จากการรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารหลายแห่งที่ออกมาผิดคาด โดยเฉพาะธนาคารที่กำไรต่ำกว่าคาดอย่าง TISCO , TMB, SCB, BBL, BAY อาจมีผลต่อราคาหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มที่อยู่อาศัยในวันนี้ด้วย ซึ่งการปรับตัวลดลงอย่างฉับพลันของตลาดวานนี้ น่าจะมาจากข่าวเชิงลบในส่วนของธนาคารกับโรงกลั่นน้ำมัน ทำให้เกิดแรงขายตามกันมาในที่สุดซึ่งก็จะมีผลต่อภาพของตลาดหุ้นวันนี้ เพราะในเชิงเทคนิคเอง ดัชนีฯก็ปรับตัวขึ้นมากมาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้เราประเมินทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงจากวันก่อน

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน มองว่าตลาดมีข่าวลบเข้ามาทำให้เกิดการขายทำกำไร หรืออาจมีการพักฐานของดัชนีฯ โดยวันนี้ ทิศทางหุ้นกลุ่มธนาคารและน้ำมัน น่าจะมีผลต่อดัชนีฯว่าจะดีดกลับหรือลงต่อ ภาพตลาดหุ้นจึงยังไม่ชัดเจนนักว่าจะออกมาในแบบใด การลงทุนในวันนี้จึงควรดูทิศทางตลาด หากมีการเทขายต่อ ก็ควรลดพอร์ตลงในหุ้นตัวที่ขึ้นมามากตามตลาดในช่วงนี้ หุ้นที่ KTBST คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ประกอบด้วย CPALL , BEM , SLP มองกรอบดัชนี้วันนี้ที่ 1,492-1,513 จุด

สำหรับหุ้นที่ บล.KTBST ให้ความสนใจคือ TK (ราคาปิด 11.70 บาท; ไม่มีราคาที่เหมาะสม) ผู้บริหารคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะช่วยนหนุนให้ภาพรวมธุรกิจปี 2559 จะเติบโตได้ตามเป้าที่บริษัทฯตั้งไว้ที่ 5% จากปี 2558 จากยอดขายรถจักรยานต์ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นมากในช่วงครึ่งปีหลัง ตามกำลังซื้อที่ฟื้นตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่ปีนี้ถือว่าอยู่ในระดับดีซึ่งเป็นบวกต่อธุรกิจของ TK โดยบริษัทฯตั้งเป้าอัตรากำไรปี 2559 อยู่ที่ระดับ 13% เนื่องจากได้รับบวกจากอัตราดอกเบี้ยของระบบที่ปรับตัวลดลง และมีแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนถูกลง ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 59 บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้มูลค่า 600 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.36% เพื่อรองรับการขยายตัวของธุจกิจ และยังเป็นการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และในปีนี้บริษัทฯคาดว่าพอร์ตสินเชื่อที่กัมพูชาลาวจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาท จากปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อที่กัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 33 ล้านบาท และที่ลาวอีกประมาณ 10 ล้านบาท ปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาหุ้น คือ สคบ. กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งอาจมีผลให้รายได้ลดลง (แต่ประเมินเบื้องต้น จะลดลงน้อยมาก)