บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ โชว์แบ็กล็อกไตรมาสแรก 1,166.7 ล้านบาท

22 มิ.ย. 2559 | 05:27 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTW เปิดเผยว่า  BTW ประกอบธุรกิจรับงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก (Parts Fabrication) และงานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ (โมดูล) ทำให้บริษัทฯ มีข้อได้เปรียบกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เนื่องจากความสามารถในการผลิตชิ้นงานที่หลากหลายให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โรงไฟฟ้า ปิโตรเคมี ท่าเรือ โรงถลุงเหล็ก เหมืองแร่ ก๊าซและปิโตรเคมี เป็นต้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯสามารถปรับเปลี่ยนการรับงานตามสภาพเศรษฐกิจและการเติบโตของแต่ละอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ขณะนี้กลุ่มบริษัทฯ  มุ่งเน้นการรับงานแปรรูปชิ้นงานเหล็กให้กับโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะงานระบบท่อ งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ รับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

“สำหรับไตรมาส 1 ซึ่งสิ้นสุดรอบบัญชี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมูลค่ารวมประมาณ 1,866.1 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้รวมประมาณ 1,166.7 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการที่ดำเนินงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 และที่เพิ่งเริ่มโครงการในไตรมาสแรกของปีนี้โดยแบ่งเป็นงานระบบท่อ  อาทิเช่น โรงไฟฟ้าบ้านโป่ง มูลค่างานตลอดโครงการ 70 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มูลค่างานตลอดโครงการ 202 ล้านบาท

ส่วนงานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ  อาทิเช่น โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มูลค่างานตลอดโครงการ 146.1 ล้านบาท และโครงการ 12 SPP Project  มูลค่างานตลอดโครงการ 85.8 ล้านบาท ด้านงานโครงสร้างเหล็ก (Structural Steel Fabrication) กลุ่มบริษัทฯ มีจำนวนงานที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน 4 โครงการ อาทิเช่น โรงไฟฟ้ากัลฟ์ SPP 3 มูลค่างานตลอดโครงการ 433.2 ล้านบาท และโครงการ Haveli Project ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศปากีสถาน มูลค่างานตลอดโครงการ 194.4 ล้านบาท   โดยงานแปรรูปชิ้นงานเหล็กนั้นมีระยะเวลาการดำเนินงานที่สั้น ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ รับรู้รายได้ทันทีเมื่อส่งมอบงานให้ลูกค้า”

นายโชติก กล่าวทิ้งท้ายว่า “กลุ่มบริษัทฯ ยังเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ เสมอ และด้วยความสามารถของกลุ่มบริษัทฯ ที่รับผลิตงานได้หลากหลายรูปแบบไม่จำกัดแค่โครงการเหมืองแร่ หรือโครงการโรงไฟฟ้า ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์รับจ้างผลิตโครงการในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีกลุ่มลูกค้าจากหลากหลายประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ ในการขยายงานไปสู่กลุ่มลูกค้าและธุรกิจใหม่ๆ”

ทั้งนี้ บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company ด้วยทุนจดทะเบียน 378 ล้านบาท โดยมีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแกน ก่อตั้งเมื่อปี 2530 ประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์และโครงสร้างเหล็ก หรือ Steel Fabrication ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติร่วม 30 ปี โดยกลุ่มของงานบริการหลักประกอบด้วย งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ หรือ โมดูล (Modularization)  ซึ่งเป็นการผลิตกลุ่มชิ้นงานเหล็กหรือระบบการผลิตแยกเป็นหลายโมดูลเพื่อนำไปประกอบในโครงการอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่ และงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก  หรือ Parts Fabrication ได้แก่  งานระบบท่อ งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ และงานโครงสร้างเหล็ก