KEY
POINTS
สมาคมภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Motion Picture Association – Asia Pacific: MPA) จับมือกับพันธมิตรเพื่อความคิดสร้างสรรค์และความบันเทิง (Alliance for Creativity and Entertainment: ACE) จัดงาน “Thailand’s Success Stories” เพื่อเฉลิมฉลองบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตภาพยนตร์ระดับโลก พร้อมแสดงพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้ก้าวสู่เวทีสากล
ในช่วงปี 2565–2567 สตูดิโอสมาชิกของ MPA ได้เข้ามาลงทุนในไทยกว่า 395 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 13,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งผลงานระดับนานาชาติและการผลิตในภาษาท้องถิ่น รวม 17 โปรเจกต์ ตัวอย่างเช่น Love Stuck รักวนลูป (Prime Video), Mad Unicorn สงครามส่งด่วน (GDH/Netflix), Jurassic World: Rebirth (Universal), Alien: Earth (FX/Hulu) และ 50 First Dates (Sony/GDH) ซึ่งล้วนใช้ทีมงานไทยและสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ
นางสาว เออร์มิลา เวนูโกปาลัน ประธานและกรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ MPA กล่าวในงานว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้สะท้อนศักยภาพของไทยในการเป็น “ศูนย์กลางการผลิตระดับโลก” ที่ไม่เพียงสร้างรายได้มหาศาล แต่ยังจ้างงานคนไทยและกระจายผลประโยชน์สู่ธุรกิจท้องถิ่นจำนวนมาก
“การสร้างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ต้องอาศัยมากกว่าเม็ดเงินลงทุน หากแต่รวมถึงการพัฒนาทักษะคนในประเทศ นโยบายรัฐที่เป็นมิตร และระบบนิเวศสร้างสรรค์ที่หนุนให้เกิดนวัตกรรมและความร่วมมือข้ามพรมแดน”
ในเวทีเดียวกัน นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวยืนยันถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการขับเคลื่อน “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ว่า ประเทศไทยกำลังฟื้นคืนพลังความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง ภายใต้นโยบาย “Quick Big Win” ที่เน้นปฏิรูประบบยุทธศาสตร์แห่งชาติ เพื่อปลดล็อกศักยภาพของครีเอเตอร์ไทย และดึงดูดการร่วมลงทุนจากทั่วโลก
แนวคิดใหม่ภายใต้ชื่อ “ไท ไทย” ซึ่งไม่ใช่แค่นโยบายแต่เป็น “ปรัชญา” ที่หลอมรวมจิตวิญญาณของความเป็นไทยเข้ากับมาตรฐานการผลิตระดับโลก เป้าหมายคือการสร้างสรรค์ผลงานที่ “แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์” พร้อมยกระดับคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติให้มีบทบาทเชิงรุก รวมถึงการจัดตั้งระบบส่งเสริมการผลิตที่มีข้อเสนอจูงใจต่อกองถ่ายต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
“กระทรวงวัฒนธรรมพร้อมทำหน้าที่เสมือน Executive Producer แห่งชาติ ในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทลายอุปสรรคทางกฎระเบียบ และเปิดทางให้โลกมาร่วมสร้างฝันกับครีเอเตอร์ไทย”
ภายในงานยังจัดเวทีเสวนานำโดย แพททริก เฟรเทอร์ ซีอีโอ เอฟ มีเดีย ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ พร้อมแขกรับเชิญระดับแถวหน้าในวงการสร้างสรรค์ไทย ได้แก่
ทุกคนต่างเห็นพ้องว่า ไทยมี “ทรัพยากรสร้างสรรค์” ครบวงจร ตั้งแต่ทีมงานมืออาชีพ โลเคชันที่โดดเด่น ไปจนถึงความร่วมมือของภาครัฐที่เอื้อต่อการถ่ายทำในระดับสากล ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือการนำเสนอความสำเร็จในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมบันเทิงและคอนเทนต์ โดยตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้เผยความสำเร็จของ “ปฏิบัติการ DEV Shutdown” ซึ่งสามารถปิดบริการ INWIPTV ผู้ให้บริการ IPTV ผิดกฎหมายรายใหญ่ที่สุดในประเทศ หลังดำเนินการมายาวนานกว่า 10 ปี
ปฏิบัติการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง DSI, พันธมิตรระดับโลกอย่าง ACE และสมาชิกในไทยอย่าง ทรูวิชั่นส์ นำไปสู่การตรวจค้นพร้อมกันใน 6 พื้นที่ ยึดของกลางกว่า 150 รายการ รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ 46 เครื่อง และกล่อง IPTV จำนวนมาก
ลาริสซา แนปป์ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองเนื้อหา MPA กล่าวชื่นชมว่า “นี่คือแบบอย่างของพลังความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐกับอุตสาหกรรม ที่ช่วยปกป้องสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก”
ขณะที่ นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “การปิดบริการละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่คุ้มครองผู้บริโภคและเยาวชน แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย และสะท้อนว่าการบังคับใช้กฎหมายสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง”