KEY
POINTS
วันนี้ (9 ตุลาคม 2568) นายพิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยในงาน Thailand Economic Outlook 2026 Out of the Trap หัวข้อ Value in Motion and Thai CEOs' Agenda for 2026 จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ว่า หากต้องการก้าวข้ามกับดักทางธุรกิจไปให้ได้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องมองหามูลค่าของธุรกิจที่จะเติบโตในอนาคต ซึ่งจำเป็นต้องมี AI เป็นตัวขับเคลื่อน ควบคู่กับการตอบโจทย์ด้าน Climate Change อย่างจริงจัง
นายพิสิฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมา PwC ได้จัดทำผลสำรวจ CEO ทั้งในประเทศไทยและ CEO ทั่วโลก เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ พบว่า ผู้บริหารมากกว่า 61% คิดว่าจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจหลัก โดยคำตอบจากการสำรวจ CEO พบว่า หากยังทำธุรกิจแบบเดิมในอีก 10 ปีข้างหน้า จะไม่สามารถอยู่รอดในธุรกิจได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการบางส่วนที่ได้เริ่มต้นการปรับเปลี่ยนไปบ้างแล้ว โดยปรับมูลค่าในเชิงธุรกิจดั้งเดิมเพิ่มขึ้น
“การก้าวข้ามกับดักทางเศรษฐกิจ จำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงกระแสหลักที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลก ทั้ง Climate Change เทคโนโลยี AI ปัญหาแรงงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการที่โลกกำลังแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่าย อย่างชัดเจน และเช่นเดียวกับเรื่องของความวุ่นวายในสังคมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น นับเป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องรับมือให้ได้”
ขณะเดียวกันเมื่อสำรวจ CEO ถึงความสำคัญของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ซึ่งถูกมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าให้กับกิจการ พบว่า CEO มากกว่า 74% ในประเทศไทยได้นำ AI เข้ามาใช้แล้ว และ 37% ของ CEO เหล่านี้พบว่าการใช้ AI ส่งผลให้กำไรดีขึ้นจริง ขณะที่อีก 48% ระบุว่าจะนำ AI มาใช้เพื่อสร้างผลกำไรในอนาคต สำหรับ CEO ทั่วโลก อัตราการใช้ AI ยิ่งสูงกว่า โดย 79% ระบุว่ามีการนำ AI ไปใช้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม PwC ได้เสนอแนวคิดใหม่ นั่นคือ โดเมนแห่งการเติบโต หรือ Domain of Growth โดยต้องให้ความสำคัญกับ 9 เรื่องที่จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต ได้แก่ 1.การก่อสร้าง 2.การผลิต 3.ห่วงโซ่ธุรกิจอาหาร 4.พลังงาน 5.การดูแลสุขภาพ/โรงพยาบาล 6.การเดินทาง 7.บทบาทของรัฐบาลในการออกกฎระเบียบและให้บริการ 8.เทคโนโลยีและโทรคมนาคม และ 9. การเงินและประกัน โดยเฉพาะใน 3 ข้อหลังสุดถือว่าเป็นฐานสำคัญของแนวคิดนี้
นายพิสิฐ กล่าวว่า PwC มีข้อเสนอแนะกับภาคธุรกิจในการปรับตัว โดยเปลี่ยนความท้าทายต่าง ๆ ให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโต 4 ด้าน ดังนี้
1. องค์กรต้องกล้าที่จะออกจากกรอบความคิดเดิม และตัดสินใจทำสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้จะยอมรับว่ามีความไม่แน่นอน
2.ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น
3.ต้องมองภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น และมองว่าธุรกิจของตนจะเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่นอย่างไร เพื่อให้สามารถสร้างและจับมูลค่าเพิ่มได้
4. ต้องมีความคิดที่ให้มูลค่าก้าวกระโดด หากคิดและทำในสิ่งเล็กๆ อาจไม่เกิดมูลค่าในองค์กร จึงต้องคิดเล็กแต่ทำใหญ่ ซึ่งอาจเริ่มจากการทำสิ่งที่เล็กๆ ไปก่อน แต่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ด้วย