KEY
POINTS
การเปลี่ยนแปลงของตลาด Influencer Marketing ไทยส่งผลให้ Nano และ Micro Influencer กลายเป็นกลุ่มที่แบรนด์ให้ความสำคัญสูงสุด เนื่องจากสามารถสร้าง Engagement ที่จริงใจและเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด
จากข้อมูลของ IdeasLabs พบว่า Nano Influencer ครองสัดส่วนตลาดสูงถึง 47.6% และ Micro Influencer 23.9% ขณะที่กลุ่ม Mid-tier และ Macro รวมกันไม่ถึง 7% ซึ่งสะท้อนว่าการเข้าถึงผู้ติดตามเชื่อมโยงใกล้ชิด เป็นสิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญมากกว่าการพึ่งพาชื่อเสียงหรือจำนวนผู้ติดตามมาก
นายธนดล พิทยานุวัฒน์ เปิดเผยว่า Nano และ Micro Influencer มี Engagement Rate (ER%) สูงสุด 6–9% และมักเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเฉพาะ เช่น รีวิวอาหาร ความงาม ไลฟ์สไตล์ ทำให้แบรนด์สามารถเลือกใช้ Influencer ให้ตรงกับวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายได้
ข้อดีของ Nano/Micro คือสามารถทำงาน หลายรายพร้อมกัน เพื่อสร้าง Impact แบบกระจายตัว โดยใช้งบเทียบเท่า Macro เพียง 1 คน แต่ได้ Engagement สูงกว่า และผู้ติดตามมักเชื่อคำแนะนำมากกว่าโฆษณาจาก Macro หรือ Celebrity ทำให้แบรนด์ได้ ผลลัพธ์จริงและคุ้มค่า (Cost Efficiency)
แม้ Influencer จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แต่ Publisher Page ก็ยังมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะ เพจรีวิวอาหารและไลฟ์สไตล์ ที่ครอง Engagement สูงสุด รองลงมาคือ เพจบิวตี้และเพจโปรโมชัน ที่สามารถปิดการขายได้จริง ขณะที่ เพจ Mass Entertainment แม้สามารถสร้าง Awareness ได้กว้าง แต่ Engagement Rate อยู่เพียง 3–4% สำหรับแต่ละอุตสาหกรรม การเลือกใช้ Influencer และ Publisher แตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น
“แบรนด์ไทยกำลังให้ความสำคัญกับ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแท้จริง และผลลัพธ์ที่วัดได้ การเลือก Nano และ Micro Influencer ที่ตรงกลุ่มและใช้ Publisher Page ให้เหมาะสม เป็นกุญแจสำคัญของการสร้าง ROI ในตลาด Influencer Marketing ยุคใหม่”