ตลาด Influencer ไทยปีนี้ไม่ใช่แค่ยอดวิว แบรนด์โฟกัสผลลัพธ์จริง

23 ก.ย. 2568 | 22:17 น.

Influencer Marketing ไทยปี 2568 แตกต่างจากเดิม! แบรนด์โฟกัส รีวิวจริง Storytelling และโปรโมชั่นจำกัดเวลา กระตุ้นผู้บริโภคให้คลิกและซื้อทันที

KEY

POINTS

  • แบรนด์เปลี่ยนจากการวัดผลด้วยยอดวิวและผู้ติดตาม มาให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง เช่น Engagement และ Conversion
  • การลงทุนใน Influencer Marketing ของแบรนด์ไทยเติบโตขึ้นกว่า 23% เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่วัดผลได้
  • คอนเทนต์ประเภทรีวิวจากประสบการณ์จริง การเล่าเรื่อง (Storytelling) และโปรโมชั่นแบบจำกัดเวลา สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้สูง
  • แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นและรูปภาพอย่าง TikTok, Instagram และ Facebook ยังคงเป็นช่องทางหลักที่แบรนด์เลือกใช้ในการทำการตลาด

ครึ่งแรกของปี 2568 ตลาด Influencer Marketing ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่งบประมาณที่แบรนด์ทุ่มลงทุนเพิ่มขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตอบรับรูปแบบการตลาดแบบใหม่มากขึ้น

นายธนดล พิทยานุวัฒน์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอเดียแล็บ จำกัด (IdeasLabs) เปิดเผยว่า แบรนด์ไทยในปีนี้ลงทุนใน Influencer Marketing เติบโตขึ้นกว่า 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญที่แบรนด์ให้กับการสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริงมากกว่าการสร้าง Awareness เพียงอย่างเดียว

“ในอดีต แบรนด์มักเลือก Influencer ตามจำนวนผู้ติดตามและวัดผลด้วยยอดไลก์หรือยอดวิว แต่ปัจจุบัน แนวทางการตลาดเปลี่ยนไป แบรนด์ให้ความสำคัญกับ Engagement และ Conversion เป็นตัวชี้วัดสำคัญ เพราะนี่สะท้อนถึงผลลัพธ์จริงที่แบรนด์ต้องการ” 

จากฐานข้อมูล IdeasLabs พบว่า แคมเปญที่ใช้ Publisher Services ร่วมกับ KOLs สามารถสร้างการเติบโตเฉลี่ยกว่า 46% และบางเดือนสูงถึง 70% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมทั้งหมดอย่างชัดเจน โดยสะท้อนให้เห็นว่า แบรนด์ไม่ได้แข่งขันเพียงการสร้างกระแส แต่แข่งขันเพื่อผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง

นอกจากนี้ ข้อมูลยังระบุว่าคอนเทนต์ที่สร้างจาก รีวิวประสบการณ์ตรง การเล่าเรื่อง Storytelling ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และโปรโมชั่นแบบจำกัดเวลา สามารถสร้าง Engagement ได้สูงกว่าคอนเทนต์โฆษณาทั่วไปเกือบ 2 เท่า ทำให้แบรนด์ปรับโฟกัสจากการสร้าง Awareness เพียงอย่างเดียว มาสู่ การสร้าง Trust และ Action ในเวลาเดียวกัน

ตลาด Influencer ไทยปีนี้ไม่ใช่แค่ยอดวิว แบรนด์โฟกัสผลลัพธ์จริง

สำหรับแพลตฟอร์มที่ใช้มากที่สุดในไทย ได้แก่ TikTok 38%, Instagram 25%, และ Facebook 19.5% รวมกันคิดเป็นมากกว่า 80% ของตลาดทั้งหมด ซึ่งสะท้อนว่า คอนเทนต์วิดีโอสั้นและภาพ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง Engagement

ขณะที่แพลตฟอร์มใหม่อย่าง Lemon8 ขยายตัวขึ้นครอง 12.9% ของตลาด และแม้ YouTube และ X (Twitter) จะมีส่วนแบ่งรวมกันเพียง 5% แต่ยังคงเป็นพื้นที่เฉพาะทางที่แบรนด์เลือกใช้สำหรับกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม

ตลาด Influencer ไทยปีนี้ไม่ใช่แค่ยอดวิว แบรนด์โฟกัสผลลัพธ์จริง

ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะ High Season ตลาด Influencer Marketing จะแข่งขันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะกลุ่ม Food & Beverage และ Beauty เนื่องจากมีการเปิดตัวเมนูใหม่ โปรโมชั่นแรง และรีวิวจริงที่สามารถกระตุ้นการซื้อได้ทันที ขณะที่กลุ่ม Retail & Lifestyle จะได้แรงหนุนจากเทศกาลลดราคาและแคมเปญช้อปปิ้ง ส่วน Beauty & Wellness จะได้อานิสงส์จากพฤติกรรมผู้บริโภค Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์จริงมากกว่าสื่อโฆษณา

 “ตลาด Influencer Marketing ไทยกำลังปรับตัวสู่ยุคที่แบรนด์ต้องการผลลัพธ์จริง จับต้องได้ และสร้างความเชื่อถือ การวัดผลด้วย Engagement และ Conversion จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำตลาดยุคใหม่”