"ณพ ณรงค์เดช" ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยันไม่เกี่ยวสินบน "100 โล" หลังถูกพาดพิง

09 ก.ค. 2568 | 11:04 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2568 | 11:12 น.

"ณพ ณรงค์เดช" ตั้งโต๊ะแถลงข่าวยืนยันไม่เกี่ยวปม "สินบนร้อยโล" พัวพัน 2 ตุลาการระดับสูง หลังมีชื่อถูกพาดพิงในจดหมาย

วันนี้ (9 ก.ค. 2568) นายณพ ณรงค์เดช นักธุรกิจชื่อดัง แถลงข่าวกรณี “ตุลาการระดับสูง 2 คนตกเป็นข่าวพัวพันสินบนร้อยโล” (100 ล้านบาท) โดยตุลาการทั้งสองรายมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีความข้อพิพาทในครอบครัวณรงค์เดช ส่งผลให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาล และรองอธิบดีในศาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้คู่ความ 

ทั้งนี้ นายณพ กล่าวว่า ตนเองตัดสินใจออกมาพูดเพราะมีจดหมายฉบับหนึ่งพาดพิงถึงตนในทางเสื่อมเสีย และต้องการสร้างความกระจ่างให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริงจากฝั่งของตน

สำหรับเรื่อง 'ร้อยโล' ตนเองไม่เคยทราบมาก่อน แต่มาจากหนังสือที่อดีตรองอธิบดีฯ ที่ถูกร้องเรียนส่งเข้าไปในสำนวนของ ก.ต. หลังจากถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ว่าได้รับข้อเสนอจากอธิบดีฯ ของศาลแห่งนั้นในเวลานั้น ซึ่งยังปรากฏหลักฐานว่าอธิบดีท่านนั้นมีการเข้าออกบ้านของคู่กรณีหลายครั้ง โดยเงินร้อยโลในหนังสือของรองอธิบดีฯ ได้ระบุวันเวลาและสถานที่ที่ชัดเจน อยู่ในช่วงเดือน ส.ค. 2565

ณพ ณรงค์เดช

ขณะที่เงิน 100 ล้านบาท ที่โจทก์นำมาวางเป็นเงินประกันศาล คือวันที่ 26 ก.ค. 2566 ซึ่งจะเห็นได้ว่า 'เงินร้อยโล' กับ 'เงินร้อยล้าน' เป็นคนละวัน คนละเดือน คนละปี โดยข้อความในหนังสือของอดีตรองอธิบดีฯ ทำให้ทราบว่ามีการเสนอสินบนร้อยโล ซึ่งตนเองได้รับทราบจากสื่อเช่นเดียวกัน เพราะเรื่องที่ฝ่ายตนเองร้องเรียนไปไม่เกี่ยวกับเงินร้อยกิโล และตนเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้ ทราบพร้อมสื่อมวลชน

“ไม่เคยทราบเรื่อง "ร้อยโล" มาก่อน และเพิ่งมารับทราบข้อมูลพร้อมกับสื่อมวลชน”

นายณพได้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างว่า เงิน "ร้อยโล" ที่ถูกกล่าวอ้างในเดือนสิงหาคม 2565 เป็นคนละส่วนกับเงิน 100 ล้านบาท ที่ฝ่ายโจทก์นำมาวางเป็นเงินประกันต่อศาลในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 "จะเห็นได้ว่า 'เงินร้อยโล' กับ 'เงินร้อยล้าน' เป็นคนละวัน คนละเดือน คนละปี

ณพ ณรงค์เดช

“หนังสือของอดีตรองอธิบดีฯ ยังได้ยัดเยียดความผิดที่น่ารังเกียจนี้ให้กับผม ว่าผมเป็นผู้เสนอให้มีการให้สินบนเพื่อจะขอปลดคำสั่งอายัดเงินปันผลหุ้น ทั้งที่ผมเป็นผู้ร้องเรียนและเป็นผู้ชนะคดี"

ทั้งนี้ได้เดินทางไปยื่นเรื่องร้องทุกข์กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) แล้ว เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวการที่แท้จริงเบื้องหลังเรื่อง "ร้อยโล"

"ตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา ผมต้องตกเป็นจำเลยทั้งในคดีแพ่ง และคดีอาญาหลายคดี ก็ได้ใช้ความจริงและข้อเท็จจริงในการต่อสู้คดี พิสูจน์ความถูกต้องตามระบบยุติธรรมมาโดยตลอด ผมยังเชื่อมั่นในกระบวนการพิจารณา และไม่อยากให้ระบบยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ต้องแปดเปื้อนเพราะคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น ผมหวังว่าเหตุการณ์เหล่านี้ จะไม่เกิดขึ้นกับประชาชนคนอื่นๆ อีก และอยากให้ระบบยุติธรรมของบ้านเราเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยต่อไป"

นายณพ กล่าวว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ตนเองได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับ ก.ต. เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในคดีที่เกิดขึ้นในศาลแห่งหนึ่ง ซึ่งมี 2 คดี คดีแรกโจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์คืน และมีการขออายัดเงินปันผลแบบฉุกเฉิน ซึ่งศาลมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวตั้งแต่เดือน ส.ค. 2563 ต่อมาศาลอุทธรณ์ ได้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวไปเมื่อ วันที่ 11 พ.ค. 2565 

"ณพ ณรงค์เดช" ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยันไม่เกี่ยวสินบน "100 โล" หลังถูกพาดพิง

ต่อมาในวันที่ 19 พ.ค. 2565 ในระหว่างที่ตนเองดำเนินการขอรับเงินปันผล ได้มีการยื่นฟ้องในประเด็นเดียวกันว่าผิดสัญญาและเรียกทรัพย์คืน เพียงแต่เปลี่ยนตัวโจทก์เป็นบุคคลอื่นในกลุ่มเดียวกัน และศาลเดิมก็ได้พิจารณา และมีคำสั่งอายัดเงินปันผลทันทีอีกครั้งและมีผลมาจนถึงปัจจุบัน ทั้ง ๆ ที่ศาลได้พิพากษาให้ตนเองชนะคดีไปแล้วตั้งแต่ 20 ก.ค. 2566 แต่คำสั่งอายัดเงินปันผลยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมาถึงวันนี้เป็นเวลากว่าสองปี  

ปัจจุบันเงินปันผลที่ถูกอายัดมีมูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท ซึ่งถ้านับตั้งแต่คดีแรก เงินก้อนนี้ถูกอายัดตั้งแต่ปี 2563 คำนวณดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากเงินปันผลนี้ประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายตนเองเป็นผู้แบกรับภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียว และได้รับผลกระทบทั้งทางธุรกิจและครอบครัวของตนเอง

นายณพยัง กล่าวว่า ฝ่ายโจทก์ยื่นขอคุ้มครองหุ้นเพียง 31 ล้านหุ้น แต่ศาลกลับมีคำสั่งให้อายัดหุ้นทั้งหมด 41 ล้านหุ้น ซึ่งเกินกว่าคำขอของโจทก์ จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ นำมาสู่การยื่นร้องเรียนต่อ ก.ต. เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 นายณพได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า

ที่ประชุม ก.ต. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อ 2 ตุลาการ อดีตผู้บริหารศาลระดับอธิบดีและรองอธิบดีศาล และต่อมาได้มีคำสั่งพักงานอดีตอธิบดีศาลคนดังกล่าวด้วย