ภายหลังจาก บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ประกาศอย่างเป็นทางการ "ยุติการทำตลาดผลิตภัณฑ์ไอศกรีม" ในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2568 นี้
คำถามที่ตามมาคือ “เกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจญี่ปุ่นที่อยู่คู่ตลาดไทยมายาวนาน 55 ปี” และที่สำคัญคือ “ผลประกอบการของบริษัทสะท้อนสัญญาณอะไร” บทวิเคราะห์นี้จะพาไปดูข้อมูลเชิงลึกจากงบการเงินย้อนหลัง บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก ผ่านระบบ datawarehouse.dbd.go.th กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2513 หรือ 55 ปีที่แล้ว ด้วยทุนจดทะเบียน 240 ล้านบาท
ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กรรมการชาวญี่ปุ่น และผู้บริหารคนไทย คือ 1.นายคาจึฮิซ่า เอซากิ 2.นายฮิเดอากิ นากาฮิซะ และ3.นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ โดยมีสำนักงานใหญ่ที่อาคารพาร์ค สีลม ชั้น 28 กรุงเทพมหานคร
เดิมทีตอนจดทะเบียนบริษัทแจ้งประเภทธุรกิจ เป็น "การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น" โดยมีวัตถุประสงค์ "ประกอบกิจการผลิตเครื่องบริโภค อาหารและเครื่องอาหารทุกประเภท" แต่ในการส่งงบการเงินปีล่าสุด พบว่ามีการเปลี่ยนประเภทธุรกิจเป็น "การผลิตขนมขบเคี้ยว/ขนมกรุบกรอบ"
ข้อมูลงบการเงินล่าสุดปี 2567 ระบุว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 0.72% จากปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการทรงตัวหลังจากปี 2566 ที่รายได้หดตัวลงถึง 28.59% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 67 ล้านบาท แม้จะกลับมามีกำไรอีกครั้งหลังขาดทุนกว่า 112 ล้านบาทในปีก่อนหน้า แต่ก็ยังต่ำกว่าค่ามัธยฐานของธุรกิจในหมวดเดียวกันที่อยู่ที่ 76 ล้านบาท
หากย้อนดูผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี จะพบว่าไทยกูลิโกะมี รูปแบบรายได้และกำไรที่ผันผวนสูง โดยเฉพาะในปี 2565 ที่บริษัทขาดทุนสุทธิเกือบ 1.2 ล้านบาท ก่อนที่จะพลิกกลับมาขาดทุนครั้งใหญ่ในปี 2566 ที่ระดับกว่า 112 ล้านบาท นับเป็นวิกฤติที่สะท้อนถึงความไม่สมดุลระหว่างรายได้และต้นทุน
แม้ว่าต้นทุนขายในปี 2567 จะลดลง 6.14% เหลือ 2,297 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงเล็กน้อย 1.87% เหลือ 1,128 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายรวมยังสูงเกินระดับกำไรที่บริษัทจะสร้างได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ค่าเสื่อมราคาของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 1,037 ล้านบาทในปี 2563 เหลือเพียง 459 ล้านบาทในปี 2567 สะท้อนถึงการลดการลงทุนใหม่
ในด้านฐานะการเงิน บริษัทมี สินทรัพย์รวมลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 5,021 ล้านบาทในปี 2563 เหลือ 3,893 ล้านบาทในปี 2567 ส่วนของผู้ถือหุ้นเหลือเพียง 2,917 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 975 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า
รายได้รวม (บาท)
กำไรสุทธิ (บาท)
กำไร(ขาดทุน) ก่อนภาษี:
ต้นทุนขาย:
สินค้าคงเหลือ
สินทรัพย์รวม
หนี้สินรวม:
หนี้สินหมุนเวียน:
รายได้รวม และ กำไรสุทธิ ของบริษัทไทยกูลิโกะมีการเติบโตในบางปีและลดลงในบางปี โดยเฉพาะในปี 2566 ที่เห็นการลดลงของทั้งสองตัวเลข ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้นในปี 2565 และลดลงในปี 2566 และ 2567 สินทรัพย์รวม แสดงถึงการเติบโตในปี 2563 และ 2567 แต่ลดลงในปี 2564 และ 2565 หนี้สินรวม และ หนี้สินหมุนเวียน ค่อนข้างมีการผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในปี 2564 และ 2565
การบริหารสภาพคล่องในภาวะเช่นนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บริษัทต้อง ตัดสินใจหยุดธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ซึ่งในกรณีนี้คือ “ธุรกิจไอศกรีม” ที่ไม่สามารถคืนทุนในระยะยาวได้
ที่มาข้อมูล - datawarehouse.dbd.go.th กรมพัฒนาธุรกิจการค้า