ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้(8มิ.ย.59)...บล.เคทีบี

08 มิ.ย. 2559 | 03:25 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) มองทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้  (8มิ.ย.59) ว่า ปัจจัยในต่างประเทศ ที่สำคัญๆ คงเป็นโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นั้นถูกขยับไปเป็นเดือน พ.ย.แล้ว คาดว่าส่วนหนึ่งมาจาก ผลสำรวจ BRExit ที่พุ่งขึ้นไปที่ 45% และปัจจัยภายนอกที่ยังไม่เอื้อ การชะลอการขึ้นดอกเบี้ย จึงอาจไม่เป็นบวกกับตลาดหุ้น เพราะถูกมองว่าตลาดมีความเสี่ยงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เงินดอลล่าร์ยังคงอ่อนค่า หนุนให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น เป็นปัจจัยเฉพาะกลุ่ม

ด้านปัจจัยบวกของตลาด วันนี้ จะเป็น GDP q1 ของญี่ปุ่นและอียู ก็ออกมาดีกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้ และตลาดจับตามองตัวเลขส่งออกของจีน ที่จะรายงานเช้านี้ (คาด -4.0% YoY ; เดือนก่อน -1.8%) ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยด้วย ด้วยปัจจัยตลาดที่ผสมผสานทั้งฝั่งบวกและลบ จะทำให้ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวและแกว่งในกรอบแคบๆ ปัจจัยที่จะมีผลต่อการซื้อขายในระหว่างวัน ได้แก่ การตอบรับของนักลงทุนต่อตัวเลขส่งออกของจีน ทิศทางราคาน้ำมันหลังมีแนวโน้มที่ภาวะ oversupply จะจบเร็วกว่าที่เคยคาด (เป็นบวก) และ ECB จะเริ่มเข้าซื้อหุ้นกู้ของภาคเอกชนวันนี้เป็นวันแรก

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน จากดัชนีฯที่ขึ้นมาแรงและมีข่าวลบเข้ามากวนตลาด อาจเกิดแรงขายทำกำไรช่วงสั้นเข้ามาในตลาด แต่ถึงกระนั้น สัญญาณบวกอย่างหนึ่งของตลาด คือ Fund Flow ที่ยังคงมีเข้ามาในตลาดเอเซีย ทำให้ดัชนีฯปรับตัวลงก็จะไม่มากนัก โดยเรามอง่ว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อหุ้นในจังกวะที่ราคาอ่อนตัวลงมา เพียงแต่ตัวเลือกจะไม่มากนัก เพราะหุ้นที่เป็นเป้าของนักลงทุนสถาบันที่ราคาหุ้นยังไม่แพง มีจำนวนที่น้อยลง  หุ้นที่เราคาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในวันนี้ ได้แก่ CPALL , PTTEP

Stock in Focus

AMATA–: (ราคาปิด 12.70 บาท; ราคาที่เหมาะสมจาก IAA Consensus 16.73 บาท) AMATA มีแผนทบทวนเป้ารายได้และกำไรปีนี้ในช่วง Q3/59 จากเดิมที่คาดว่าจะโตไม่เกิน 10% และกำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1,216 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานงวด Q1/59 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 80.27 ล้านบาท ลดลง 40% YoY เป็นผลจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง 62% YoY แม้ว่าผลการดำเนินงานจากค่าสาธารณูปโภคยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง (+40%YoY) ... บริษัทฯคาดยอดขายที่ดินปีนี้อยู่ที่ 900-1,000 ไร่ จากปัจจุบันมียอดขายที่ดินอยู่ที่ 250 ไร่ โดยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นช่วงที่จะสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะช่วยหนุนให้ทั้งปีมียอดขายที่ดินได้ตามเป้า ปัจจุบันบริษัทฯมี Backlog อยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 50% โดยมีสัดส่วนมาจากการขายที่ดิน 40% และสาธารณูปโภค 50% บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย หากการเจรจาสำเร็จ คาดว่าจะสามารถโอนและรับรู้รายได้ที่ดินจำนวน 100 ไร่ ได้ใน Q2/59 และยังเห็นสัญญาณการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามการลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ยังคงรอดูความชัดเจนของนโยบายจากภาครัฐซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของการลงทุน ขณะนี้ AMATA ได้รับความสนใจจากศรีลังกา ให้เข้าไปลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลศรีลังกาได้จัดพื้นที่ใกล้กับกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังหา โดยเตรียมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับไว้แล้ว...คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยอย่าง AMATAV ที่เข้าไปลงทุนด้านอุตสาหกรรมในเวียดนามที่มีศักยภาพสูง น่าจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯให้โตตามไปด้วย

ปัจจัยตลาด : ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (07 มิ.ย.) – SET Index ปิดตัวลงที่ 1,442.42 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.07% มูลค่าการซื้อขาย 45,946.78 ล้านบาท คาดตลาดฯเจอแรงขายทำกำไรหลังตลาดฯปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นต่างประเทศ – ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,938.28 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด หรือ +0.10%ตลาดฯได้แรงหนุนจากการแสดงความเห็นในด้านบวกของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯและราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามการขึ้นมีกรอบจำกัดจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มแบงก์ ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น +1.12% ปิดที่ 346.26 จุด

ราคาน้ำมันดิบ WTI (JUN) – สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ +1.4% ปิดที่ 50.36 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงหนุนการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

เศรษฐกิจโลก- เวิลด์แบงก์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากการค้าและการลงทุนชะลอตัวลง หรับลด GDP ทั่วโลกลง จาก 2.9% เหลือ 2.4% ในปีนี้

เศรษฐกิจไทย –คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงประมาณการเศรษฐกิจไทย ‘59 ที่ 3.0-3.5%

กลุ่มพลังงาน – ครม.มีมติเห็นชอบให้ร่างกฎหมายปิโตรเลียม โดยขั้นตอนต่อไปจะส่งให้ สนช. พิจารณา คาดจะแล้วเสร็จภายใน 4 เดือนข้างหน้า

กลุ่มอสังหาฯ – ครม.มีมติวานนี้ให้ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ โดยคาดบังคับใช้ในปี 2560 เว้นภาษีบ้านอยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนบ้านหลังที่สองเก็บตั้งแต่ล้านแรก อัตรา 0.03-0.3%

กลุ่มรับเหมาฯ – รมว.คมนาคม ปรับแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 20 ปี เร่งลงทุนต่อเนื่องตามแผนระยะ 2 ช่วงปี 2560-2564 ทั้งรถไฟฟ้าและทางคู่ มอเตอร์เวย์ ท่าเรือน้ำลึก ทางด่วน งบประมาณ ปี 61 ไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท และคาดเสนอโครงการทางคู่มาบกะเบา-จิระ 2.96 หมื่นลบ.เข้าครม. 1-2 สัปดาห์นี้ ประมูลก่อนสิ้นปี

ที่มา:บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด