นายกฯ บี้ 6 รัฐวิสาหกิจเจ้าปัญหา เร่งฟื้นฟูองค์กร

26 ม.ค. 2566 | 10:31 น.

นายกฯ ประชุมบอร์ด คนร. วันนี้ บี้ 6 รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาองค์กร ขอให้แก้ทุกปัญหาโดยเร็ว พลิกฟื้นองค์กรต่าง ๆ ขึ้นมาให้สำเร็จ สั่งพิจารณากำหนดมาตรการสร้างแรงจูงใจและลงโทษด้วย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) วันนี้ ถึงการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ขอให้รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการตามข้อเสนอแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วงโดยเร็ว 

โดยให้มีการรายงานความก้าวหน้าในแต่ละเรื่อง โดยในการแก้ไขปัญหาต้องมองว่าวันนี้ทำได้แค่ไหน ปัญหายังอยู่ตรงไหนอีก และจะแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างไร จะมีนโยบายใหม่ในการเดินหน้าไปอย่างไรเพื่อตอบสนองเรื่องรายได้ เรื่องการบริหาร และเรื่องความก้าวหน้าของรัฐวิสาหกิจที่ยังมีปัญหาอยู่ เพื่อให้สังคมและประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ไว้วางใจในการทำงานและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 

"การที่จะพลิกฟื้นองค์กรต่าง ๆ ขึ้นมาให้สำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยนายกฯ สั่งกให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาฯ บอร์ด คนร. CEO และพนักงาน ร่วมกันปรับปรุงแผนพลิกฟื้นองค์กรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว มีการกำหนดเป้าหมายในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาองค์กรในระยะสั้น ระยะปานกลาง ระยะยาว ให้ชัดเจน โดยระยะสั้นให้เน้นการดำเนินการที่เห็นผลเป็นรูปธรรมได้ การเพิ่มรายได้ การปรับปรุงภาพลักษณ์ การลดต้นทุน ที่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์โลก พิจารณากำหนดมาตรการสร้างแรงจูงใจและลงโทษให้กับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งด้วย” 

สำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กรของรัฐวิสาหกิจทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย มีความคืบหน้าในการดำเนินงานตามลำดับ 

ทั้งนี้ คนร. กำชับให้รัฐวิสาหกิจเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กรให้เป็นไปตามแผนและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้มีการกำหนดเป้าหมาย/มาตรการดำเนินงานในระยะต่าง ๆ ทั้งในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว เพื่อให้มีการติดตามและปรับปรุงแก้ไขได้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงเน้นการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ พร้อมทั้งกำชับให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับดูแลและรายงานความคืบหน้าต่อ คนร. ต่อไป