เงินสะพัด ‘เคาท์ดาวน์2023’ ททท.-เอกชนจัดใหญ่ปลุกเที่ยวไทย

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การจัดงานเคาท์ดาวน์ ประจำปี 2566 มีสัญญาณของการกลับมาจัดงานทั่วไทยคึกคัก เนื่องจากในขณะนี้จังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวและภาคเอกชน ต่างเตรียมแผนจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รองรับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว หลังจากไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ

ล่าสุดไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติครบ 10 ล้านคนตามเป้าหมายในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ และคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ย. 2565 มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (นักท่องเที่ยวไทยที่พักค้างคืน และทัศนาจรไม่พักค้างคืน) แล้วจำนวน 219 ล้านคน-ครั้ง ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562 ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยอยู่ที่ 229 ล้านคน-ครั้ง

การจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ของททท.จะใช้งบราว 40-50 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบในส่วนที่ททท.จัดกิจกรรมเอง และเป็นส่วนของการสนับสนุนจังหวัดต่างๆและภาคเอกชนจัดงานเคาท์ดาวน์ โดยการจัดกิจกรรม Amazing Thailand Countdown 2023 ซึ่งททท.จะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานเอง จะอยู่ใน 2 พื้นที่ คือ กรุงเทพฯและหาดใหญ่ ที่เป็นแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งททท.จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อขอบคุณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไทย

การเลือกจัดกิจกรรมที่กรุงเทพฯจะเป็นการสร้างแลนด์มาร์กในการเคาท์ดาวน์ของไทย และขอบคุณนักท่องเที่ยวในภาพรวม ส่วนการจัดกิจกรรมที่หาดใหญ่ จะเป็นการขอบคุณนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่วันนี้เดินทางมาเที่ยวไทยแล้ว 1.5 ล้านคน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยผ่านชายแดน ทั้งจากมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่เดินทางเข้าไทยผ่านช่องทางนี้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งไม่เพียงแต่จัดกิมมิกการเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ในพื้นที่หาดใหญ่ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองไปพร้อมๆ กันใน 14 จังหวัดภาคใต้ด้วย โดยที่หาดใหญ่จะมีการจัดงาน 4 วัน เน้นเรื่องอาหาร วัฒนธรรม ความบันเทิงจากศิลปินไทยและศิลปินมาเลเซีย รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับสปอร์ต ทัวริสซึมด้วย

ไม่เพียงแต่การจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ของททท.เท่านั้น ททท.ยังได้สนับสนุนการจัดงานเคาท์ดาวน์ในหลายพื้นที่ทั่วไทย อาทิ ชุมพร,ภูเก็ต,สมุย,เชียงใหม่,เชียงราย,บุรีรัมย์,สุราษฏร์ธานี,กระบี่ รวมไปถึงการจัดงานของภาคเอกชนในกรุงเทพฯ อาทิ ไอคอนสยาม นางสาวฐาปนีย์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับรูปแบบการจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2023 ณ วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ จะจัดงานในสวนนาคราภิรมย์เดิม ตรงข้ามวัดอรุณ เพื่อให้มองออกไปจะเห็นการประดับตกแต่งไฟ การ Light Up พระปรางค์วัดอรุณ การแสดงม่านน้ำประกอบแสงสีเสียง การแสดงพลุเคาท์ดาวน์ ส่วนงาน Amazing Thailand Countdown 2023 ณ จ.สงขลา ก็จะมีการจัดทำแลนด์มาร์กและประดับตกแต่งไฟสวยงาม การจัดแสดงพลุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ด้านนายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 นี้ ไอคอนสยามจึงร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน กลุ่มโรงแรม ผู้ประกอบการ และชุมชน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จัดงานเคาท์ดาวน์ขึ้นภายใต้ชื่อ Amazing Thailand Countdown 2023 โดยใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ด้วยแนวคิด “ICONSIAM Magical Enchanted Celebration” เพื่อให้ไทยเป็น “Global Countdown Destination” หนึ่งในแลนด์มาร์กของการเคาท์ดาวน์ระดับโลก

“ถือเป็นปีแรกของการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 การจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2023 ในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์ Collaborate to Win เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุขให้คนไทยและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยใช้งบประมาณราว 200 ล้านบาท แบ่งเป็นงบจัดงาน 100 ล้านบาทและที่เหลือเป็นการจัดแคมเปญการตลาด 20 กิจกรรมตลอดทั้งเดือนธันวาคมนี้”

โดยไฮไลท์ของงาน จะเป็นการจัดในรูปแบบ Hybrid World Countdown ผสมผสานแสงสี เสียง และ Immersive Technology เชื่อมต่อโลกเสมือนเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง พร้อมการแสดงต่างๆ อาทิ การแสดงระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ‘ICONIC Multimedia Water Features’ รูปแบบใหม่

ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Empowering The Joy” , “DISNEY IN CONCERT: A Magical Celebration 2022” ครั้งแรกในประเทศไทย การแสดงดนตรีบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์ดิสนีย์สุดไพเราะ โดยนักดนตรีของวงออร์เคสตราจากประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 46 ชีวิต

นอกจากนี้ยังมีการแสดงพลุรักษ์โลกสุดยิ่งใหญ่บนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครให้เป็นหนึ่งใน Global Countdown Destination ที่ผู้คนจากทั่วโลกต้องมาเยือน โดยการจัดงานค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นี้จะถูกถ่ายทอดสู่สายตาชาวโลกผ่านโซเชียลมีเดียและสำนักข่าวระดับโลก อาทิ CNN, BBC, AP, Reuter, ABC ฯลฯ ทั่วโลกต่างชื่นชมความงดงามของค่ำคืนแห่งการก้าวสู่ปีใหม่บนโค้งน้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์คระดับประเทศที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกให้กับประเทศไทย

“ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งมีอีเว้นต์ใหญ่ของประเทศทั้งการจัดประชุมเอเปค 2022 และเทศกาลเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ทำให้คาดว่าจะมีนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศมากกว่า 2 ล้านคนมีเงินสะพัดหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดอีเว้นต์ใหญ่ครั้งนี้เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาราว 1-1.3 แสนคนต่อวัน ทำให้ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น”

นางสาวธณพร ตันติยานนท์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ ศูนย์การค้าสยามพารากอน บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ตลอดเดือนธันวาคมนี้ สยามพารากอนจัดอีเว้นต์ใหญ่ “SIAM SMILEY® Celebration Infinite Happiness” เพื่อร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยไฮไลท์

นอกจากการผนึกความร่วมมือครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับแบรนด์ SMILEY ในวาระครบรอบ 50 ปีแล้ว ยังเป็นการจัดงาน Siam Paragon Countdown 2023 ณ พาร์ค พารากอน โดยเนรมิตมหกรรมความบันเทิงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบจากศิลปินแนวหน้าของเมืองไทยต่อเนื่องจนข้ามสู่ปี 2566 พร้อมกันนี้สยามพารากอนยังขยายเวลาเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.30-24.00 น. ด้วย

“ตลอดเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงเวลาพิเศษ ที่สยามพารากอนจะส่งมอบความสุขผ่านโชว์พิเศษจากเนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ โดยพิธีเปิดงาน “SIAM SMILEY® Celebration Infinite Happiness” อย่างเป็นทางการมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมกับการตกแต่งพื้นที่ทั้งภายในและนอกศูนย์การค้า สร้างรอยยิ้ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาเยือน”

รายงานข่าวจากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เซ็นทรัลพัฒนาเตรียมพร้อมจัดงานเคาท์ดาวน์ระดับโลก “Thailand & Bangkok Countdown 2023” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA), มาดามฟิน, ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ, บุญรอดเทรดดิ้ง, โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล, แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, ไทยฮอนด้าและบีอีซี เวิลด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปีและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย

สำหรับงาน “Thailand & Bangkok Countdown 2023” ได้รับการขนานนามว่าเป็น Time Square of Asia ตอกย้ำการเป็น World’s Best Festive Destination ของคนทั่วโลก ซึ่งปีนี้ จะได้พบกับ 7 ไฮไลท์เคาท์ดาวน์สุดมันส์สนั่นโลก พร้อมอีเว้นท์ต่างๆ ทั้งด้านในและนอกศูนย์การค้า ต่อเนื่องไปจนถึงวันเคาท์ดาวน์นับถอยหลังส่งท้ายปี

พร้อมกับการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 นอกจากเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว ในปีนี้เซ็นทรัลพัฒนา ยังเตรียมจัดงานเคาท์ดาวน์ขึ้นในอีก 7 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล มารีนา, เซ็นทรัล โคราช และเซ็นทรัล อยุธยา