กรอ.พาณิชย์ ถกเอกชนบุก 3 ตลาดใหญ่ส่งออกปี66

09 ธ.ค. 2565 | 06:18 น.

กรอ.พาณิชย์ ถกเอกชนบุก 3 ตลาดใหญ่ปี66 ตั้งเป้าขนเงินเข้าประเทศเพิ่ม 3 แสนล้านบาทในปีหน้า พร้อมฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประเดิมบุกดูไบประเทศแรกต้นปีหน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์(กรอ. พาณิชย์) เพื่อหารือร่วมกันทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าว่าที่ประชุม กรอ.พาณิชย์ มีภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยและสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย  เพื่อเตรียมการส่งออกปีหน้ารองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวและปัญหาอื่นๆ

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

เช่น ประเด็นที่1 ปี 64 เศรษฐกิจ โลก +6% ในปีนี้ IMF คาดว่ามีแนวโน้ม +3.2% และปีหน้ามีแนวโน้ม +2.7% ซึ่งจะชะลอตัวในปีหน้าชัดเจน ประเด็นที่2 ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน มีผลกระทบต่อราคาพลังงานและความมั่นคงทางอาหารของโลก

ประเด็นที่3 นโยบายซีโร่โควิดของจีน ที่จีนเป็นคู่ค้าลำดับหนึ่งของไทย เป็นตลาดส่งออกลำดับใหญ่อันดับสองของไทย ประเด็นที่สี่ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท มีผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบ เพื่อนำมาผลิตส่งออกต่อไป และประเด็นที่ห้าทั้งหมดนี้จะมีผลกระทบต่อการส่งของไทยในปีหน้า

 

กรอ.พาณิชย์ ถกเอกชนบุก 3 ตลาดใหญ่ส่งออกปี66

“วันนี้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษให้การส่งออกปีหน้าตัวเลขยังคงดีที่สุดเท่าที่จะจับมือกันระหว่างภาครัฐกับเอกชนของไทยเดินหน้าด้วยกัน วันนี้ที่ประชุมมีมติให้ตั้งวอรูมขึ้น เป็นวอรูม กรอ.พาณิชย์ที่ประกอบด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนทั้งหมด เพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดปี 2566 รองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและปัญหายืดเยื้อที่ค้างคาจากปี 64-65”

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีข้อสรุปเบื้องต้น ตั้งเป้าบุกตลาดที่มีศักยภาพเพิ่มยอดการส่งออกจากมาตรการปกติที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นกรณีเฉพาะ บุก 3 ตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพประกอบด้วยตลาด ตะวันออกกลาง ตลาดเอเชียใต้ และตลาด CLMV โดย 3 ตลาดใหญ่นี้ ปี 65 คาดมียอดการส่งออกรวมประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท และปี 66 จะเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาท เพิ่มอีก 300,000 ล้านบาทโดยแบ่งเป็น

กรอ.พาณิชย์ ถกเอกชนบุก 3 ตลาดใหญ่ส่งออกปี66

 

  • ตลาดตะวันออกกลางจะเน้น ซาอุดิอาระเบีย ยูเออีและกาตาร์ สินค้าเป้าหมายสำคัญ คือ อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์  เครื่องปรับอากาศและวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ตั้งเป้าปี 66 เพิ่มตัวเลขส่งออก 3 ประเทศนี้ 20% จาก 8,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 65 เป็น 10,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 66 (350,000 ล้านบาท)
  •  ตลาดเอเชียใต้ เน้นประเทศสำคัญ 3 ประเทศ คือ อินเดีย บังกลาเทศและเนปาลตั้งเป้าส่งออกปีหน้าใน 3 ประเทศนี้ ตลาดเอเชียใต้ +10% เพิ่มจากปีนี้ที่ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 13,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 66 (450,000 ล้านบาท)  สินค้าสำคัญ เช่นเคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
  •  ตลาด CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม ตั้งเป้า +10-15% จาก 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เป็น 33,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า (1.14 ล้านล้านบาท) สินค้าเป้าหมายสำคัญ เช่น วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เม็ดพลาสติก สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และเร่งรัดการค้าชายแดน เช่น อาหาร ผลไม้ ผักและสินค้าอื่นเป็นต้น เป็นหน้าที่ของวอรูมจากนี้ต่อไปทำตลาดและยอดเพิ่มจากปกติที่ตั้งไว้ ช่วยประเมินตัวเลขการส่งออกปีหน้าร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไปด้วย

 

กรอ.พาณิชย์ ถกเอกชนบุก 3 ตลาดใหญ่ส่งออกปี66

 

อย่างไรก็ตามที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบว่าควรนำคณะไปเยือนประเทศเท่าที่จำเป็นสำคัญคือ 1. UAE (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) จะเป็นประตูสำคัญอีกประตูหนึ่งนอกจากซาอุดิอาระเบียส่งสินค้าไปกลุ่มประเทศตะวันออกกลางในต้นปีหน้า

2.อินเดีย โดยเฉพาะรัฐคุชราต มีเมืองอาห์เมดาบัด ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของอินเดีย มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

3.มณฑลยูนนาน ซึ่งไทยต้องเร่งรัดทำ Mini FTA เป็นที่ตั้งของด่านสำคัญของจีนคือ ด่านโม่ฮาน ขณะนี้รัฐบาลจีนเห็นชอบเปิดด่านได้แล้ว อาจมีปัญหาอุปสรรคในภาคปฏิบัติ จะเป็นโอกาสเจรจาร่วมกับมณฑลอำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าไทยไปจีนผ่านมณฑลยูนนานคล่องตัวขึ้น

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเร่งรัดแผนงาน FTA ที่เดินหน้า ขณะรอการทำ FTA กับอังกฤษควรเจาะทำ Mini FTA กับเมืองหรือเขตเศรษฐกิจสำคัญของอังกฤษ เป็นการเร่งด่วนต่อไปด้วย และ Mini FTA กับปากีสถาน  โดยเฉพาะเมืองลาฮอร์ ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของปากีสถานและสุดท้ายกลุ่มอ่าวอาหรับหรือ JCC ถ้ารอทำ FTA จะใช้เวลา ถ้าเราสามารถเจาะทำ Mini FTA ได้ก่อนจะช่วยตัวเลขการส่งออกได้เร็วขึ้น