"อพท." ชูบ้านถ้ำเสือชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำต้นแบบ BCG

05 ก.ย. 2565 | 08:08 น.

"อพท." ชูบ้านถ้ำเสือชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำต้นแบบ BCG เผยไฮไลท์กิจกรรมเพิ่มผืนป่าแหล่งเรียนรู้ธนาคารต้นไม้เดินหน้าสู่ความยั่งยืน

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เปิดเผยว่า อพท. ได้ดำเนินการเข้าไปยกระดับชุมชน ที่มีการต่อยอด สร้างคุณค่าจากทุนวัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทุนทางธรรมชาติ เกิดการพัฒนาศักยภาพผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์  

 

โดยชุมชนบ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย ที่ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน  (CBT Thailand) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สำคัญ ที่จะเป็นต้นแบบ และพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria หรือ GSTC)  

 

ซึ่งชุมชนบ้านถ้ำเสือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว ให้มีการปลดปล่อยคาร์บอนอย่างสมดุล หรือ Carbon Neutral Community-Based Tourism ที่จะผลักดันการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ 

สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด BCG Model  (Bio-Circular-Green Economy Model)  ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนบนพื้นฐานการมีส่วนร่วม (Co-Creation) และการเป็นเจ้าของร่วมกัน Co – Own ของชุมชนบ้านถ้ำเสืออย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ อพท.และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้ความเข้าใจ เพื่อการพัฒนาเป็นชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ  การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร พร้อมลงมือทำให้เกิดผลอย่างแท้จริง  ภายใต้กิจกรรม ดิน น้ำ ป่า จากภูผา สู่มหานที” นับเป็นต้นแบบของพื้นที่ภาคตะวันตก ที่ชุมชนได้มีส่วนร่วมการออกแบบพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรม  โดยที่ชุมชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากรายได้เสริมที่มาจากการให้บริการนักท่องเที่ยว  

 

"อพท." ชูบ้านถ้ำเสือชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำต้นแบบ BCG

 

ชุมชนบ้านถ้ำเสือ เป็นชุมชนริมแม่น้ำเพชรบุรี ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีจุดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ได้รับการยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ  เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์ การสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งสู่การใช้ประโยชน์ผืนป่าเพื่อการกักเก็บคาร์บอน เป็นส่วนหนึ่งการเดินหน้าสู่เข้าสู่สังคม Net Zero ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ต้องตระหนักและให้ความสำคัญด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้มีความยั่งยืน

สำหรับ 4 กิจกรรมหลักในเส้นทางการท่องเที่ยว เริ่มจากการเรียนรู้แหล่งสะสมพันธ์ไม้ในรูปแบบธนาคารต้นไม้ ซึ่งจะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้การอนุรักษ์ต้นไม้ที่มีคุณค่า และมีมูลค่า ทั้งในด้านการดำรงชีวิต  และการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อคนในชุมชน และนักท่องเที่ยวได้สัมผัส ความสำคัญของต้นไม้ได้อย่างแท้จริง 

 

ซึ่งปัจจุบันชุมชนสามารถยกระดับการปลูกไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้สัก ไม้ประดู่ ตะเคียนทอง ที่จะมีมูลค่าเป็นหลักประกันในการกู้เงิน และยังเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลานได้ ปัจจุบันชุมชนบ้านถ้ำเสือมีต้นไม้ที่ลงทะเบียนอยู่กับธนาคารมากกว่า 20,000 ต้น และเจ้าของต้นไม้จะได้รับดอกเบี้ย จากต้นไม้ของตนเองด้วยซึ่งได้รับผลตอบแทนแตกต่างตามแต่ละชนิดของต้นไม้

 

จากนั้นยังสามารถสัมผัสวิธีการทำอาหารสูตรบ้านถ้ำเสื้อ โดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น พัฒนาสู่เมนูของคาว และของหวาน  ในการแปรรูปชนท้องม้วนสูตรเพชรบุรี เจ้าแรกที่ใช้ตาลตโนด ถือเป็นการนำวิถีท้องถิ่น ผสมผสานภูมิปัญญาของชุมชน มานำเสนอผ่านกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำทองม้วนแสนหอมหวาน จากตาลโตนด เป็นไม้พื้นถิ่นที่สร้างชื่อเสียงของจังหวัด  ในการทำขนมหวานให้กับเมืองเพชร

 

"อพท." ชูบ้านถ้ำเสือชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำต้นแบบ BCG

 

จนได้รับการยกย่องขึ้นทะเบียนเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก   พร้อมนำสู่กิจกรรมด้านการถนอมอาหาร โดยนำไข่เป็ดที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการนำภูมิปัญญาจากพืชมาสร้างคุณค่าของไข่เป็ด ให้มีรสชาติที่เป็นจุดเด่นและแตกต่างเป็นไข่เค็มอัญชัน

 

และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวได้ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูผืนป่า ด้วยการปั้นเมล็ดพันธุ์ เป็นกระสุนยิงด้วยหนังสติ๊ก  เพื่อใช้สำหรับการยิงไปยังพื้นที่ป่า เพื่อเพิ่มจำนวนต้นไม้  และความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ชนิดพันธุ์พืชท้องถิ่นที่มีคุณค่า ให้กับชุมชนและสัตว์ป่า ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกิจกรรมล่องแพยาง ไปกับสายน้ำเพชรบุรี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะเป็นสายน้ำที่มีความแตกต่าง จากแม่น้ำสายอื่นที่ไหลลงปากอ่าวทางทิศเหนือ ถือได้ว่า แม่น้ำเพชรบุรี เป็นแม่น้ำสำคัญทางเศรษฐกิจของเพชรบุรี 

 

จากการได้พัฒนาเป็นชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำยังได้ขยายผลโดยการถ่ายทอดองค์ความรู้การให้บริการท่องเที่ยวเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง BCG Model ตั้งแต่เรื่องการคัดแยกขยะ ทำบ่อดักไขมัน แนวทางการลดใช้พลังงาน  โดยเน้นใช้พลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้บริการในที่พัก พร้อมรณรงค์ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว ในการคัดแยกขยะ  เป็นต้น