เอราวอนบุกตลาดยีนส์เต็มสูบเพิ่มสาขาขายออนไลน์ลุยตปท.

18 พ.ค. 2559 | 12:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เซเลเบรท รุกตลาดยีนส์เต็มสูบพา “เอราวอน” บุกตลาด ทั้งเพิ่มสาขา ขยายช่องทางจำหน่ายไปยังสถานศึกษา ขายผ่านออนไลน์ พร้อมปูพรมบุกตลาดอาเซียน วางเป้าโกยยอดขาย 200 ล้านในสิ้นปี

นายชัยรัตน์ วัฒนโชติวัฒน์กรรมการ บริษัท เซเลเบรท เว็ลธจำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย ภายใต้แบรนด์ “เอราวอน” เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่าจะให้ความสำคัญกับการขยายสาขาควบคู่กับการหาช่องทางการขายใหม่โดยขยายสาขาร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยีนส์เอราวอน 10 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล หลังจากเปิดช็อปแห่งแรกที่ศูนย์การค้าสยามสแควร์วันขณะที่งบการลงทุนจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ ควบคู่กับขยายช่องทางขายใหม่ๆ ตามอาคารสำนักงานต่างๆ อาทิสาทร สีลม รวมถึงแนวรถไฟฟ้า ตามความหนาแน่นของอาคารสำนักงาน โดยจะอาศัยการแจกแค็ตตาล็อกให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย เพื่อซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊กและร้านค้าออนไลน์ต่างๆ คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนกรกฎาคม นี้

ขณะที่ช่องทางการขายผ่านสถานศึกษานั้นยังคงทำต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้จะร่วมมือกับค่ายเพลงสมอลล์รูม เตรียมจัดแสดงดนตรีและจำหน่ายสินค้าตามมหาวิทยาลัย รวม 10 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด คาดว่าจะเริ่มช่วงเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกันนี้ยังเตรียมพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมาเป็นของบริษัทเอง www.erawonthailand.com ในรูปแบบ 2 ภาษาคือ ภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อให้ซื้อขายสินค้าได้ทั้งในประเทศและจากต่างประเทศปัจจุบันมีสัดส่วนการขายจากช่องทางออนไลน์ 10% ของยอดขายรวม

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาในต่างประเทศคือ ที่สปป.ลาว 1 สาขาตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเฟรนด์ชิป มอลล์ เมืองปากเซ ขณะที่สาขากัมพูชา กำลังขยายสาขาที่ 2 ที่ห้างอิออน มอลล์หลังจากเปิดไปแล้ว 1 สาขาที่กรุงพนมเปญ พร้อมกันนี้มีแผนที่จะขยายไปประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามเพราะมองว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพโดยเฉพาะด้านกำลังซื้อและจำนวนประชากรของอินโดนีเซียที่มีกว่า200-300 ล้านคน คาดว่าจะเริ่มได้ภายในปีนี้ อย่างไรก็ตามจากการทำตลาดในสปป.ลาวและกัมพูชาครั้งนี้จะทำให้มีสัดส่วนการขายจากต่างประเทศในปีนี้เพิ่มเป็น 10% ของยอดขายรวม นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้า 3-5ปีจากนี้สัดส่วนการขายจากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 30%

ส่วนของยอดขายรวมในปีนี้บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถทำได้200 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มียอดขาย 160 ล้านบาท โดยยอดขายหลักยังคงมาจากในประเทศ 95% เป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 85% และต่างจังหวัด 15%ส่วนที่เหลืออีก 5% มาจากต่างประเทศ

Photo Cover : Fb erawon
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559