“BEARHOUSE” ผุดสาขาเพิ่ม-ลอนช์ชูการ์ฟรีรับเทรนด์รักสุขภาพ

11 มิ.ย. 2565 | 10:02 น.

“BEARHOUSE” ยืนหนึ่งชานมไข่มุกขวัญใจวัยรุ่น เปิดเกมรุกปักหมุดทำเลทองรอบกรุงผุดสาขาเพิ่ม-ลอนช์ชูการ์ฟรีไซรัปเอาใจคนรักสุขภาพ ดันเป้าสิ้นปียอดขายแตะ 180 ล้านบาท

BEARHUG ปลื้ม “BEARHOUSE” เครื่องดื่มชานมไข่มุกโมจิ ปิดยอด 2564 โตสวนกระแส ยอดขายทะลุ 100 ล้านบาท พร้อมเปิดเกมรุกปูพรมผุดสาขาเพิ่มเป็น 20 แห่งภายในปี 2565 ปักหมุดทำเลทองรอบกรุง และ 1 สาขาทดลองในต่างจังหวัด

“BEARHOUSE” ผุดสาขาเพิ่ม-ลอนช์ชูการ์ฟรีรับเทรนด์รักสุขภาพ

ควบคู่เปิดตัวเมนูใหม่ “ชานมปั่น Sugar Free syrup” และ “ชาดำยูซุปั่น Sugar Free syrup” ชูไฮไลท์ไซรัปสูตรชูการ์ฟรี การันตี “อร่อยเหมือนไซรัปปกติจนแยกไม่ออก” เอาใจคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายทะยาน 180 ล้านบาท 

 

นางสาวปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช (ซารต์) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด เจ้าของร้านชานมไข่มุก “BEARHOUSE” เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มชานมไข่มุกในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 3,000-4,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

นางสาวปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช (ซารต์) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด


ปัจจุบัน BEARHOUSE จำหน่ายทั้งเครื่องดื่มและขนมต่าง ๆ แต่ยังคงมุ่งเน้นเครื่องดื่มเป็นหลัก และยังคงต่อยอดพัฒนาธุรกิจและสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2565 นี้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาจาก 12 สาขา ให้เพิ่มเป็น 20 สาขา ในรูปแบบการลงทุนเอง โดยมุ่งเน้นทำเลรอบเมืองและปริมณฑล รวมทั้งมีแผนจะนำร่องทดลองเปิดสาขาในต่างจังหวัด   ซึ่งใช้ขนาดพื้นที่สาขาละไม่ต่ำกว่า 50 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนสาขาละ 2.5-4.5 ล้านบาท เพื่อสร้าง Experience ที่ดีต่อลูกค้า

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว 2 เมนูใหม่ “ชานมปั่น Sugar Free syrup” และ “ชาดำยูซุปั่น Sugar Free syrup” โดย Sugar Free syrup นี้เป็นสูตรใหม่ ที่ได้มีการคิดค้น วิจัย และพัฒนา โดยใช้วัตถุดิบหลักจากหล่อฮังก้วย และส่วนผสมอื่น ๆ ปรุงขึ้นใหม่จนได้รสชาติความอร่อยใกล้เคียงกับไซรัปปกติมากจนแยกไม่ออก

“BEARHOUSE” ผุดสาขาเพิ่ม-ลอนช์ชูการ์ฟรีรับเทรนด์รักสุขภาพ

ซึ่ง Sugar Free syrup สามารถสั่งเพิ่มได้ทุกเมนูในร้าน BEARHOUSE เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ โดยเมนูชานมปั่น ราคาเริ่มต้น 120 บาท ชาดำยูซุปั่น ราคาเริ่มต้น 140 บาท หากเป็นสูตร Sugar Free syrup เพิ่มเพียง 10 บาท

 

 

“BEARHOUSE นับเป็นร้านชานมวัยรุ่นแบรนด์แรก ๆ ที่พัฒนาสูตรชูการ์ฟรีไซรัปขึ้นมาเพื่อเอาใจสาว ๆที่เป็นสาวกเครื่องดื่มของร้าน แต่ไม่อยากรู้สึกผิด และหันมาสนใจกระแสสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเราใช้เวลาเตรียมการและพัฒนาสูตรไซรัปนี้นานถึง 6 เดือน ตอนแรกตั้งใจว่าจะลอนช์ตั้งแต่ต้นปี แต่เนื่องจากสูตรชูการ์ฟรีทั่วไปนั้น มีรสชาติเฝื่อน และติดลิ้น ทานยาก เราจึงพัฒนาต่อจนได้สูตรที่พึงพอใจจริง ๆ มีการทำเทสต์กันในทีมจนมั่นใจ แล้วจึงค่อยเปิดตัว

 

นอกจากนี้ เรายังปรับปรุงสูตรการชงใหม่หมดทั้งร้าน เพื่อให้ชูการ์ฟรีไซรัปสามารถนำไปชงร่วมกับเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ และยังคงรสชาติความอร่อยได้เหมือนเดิม เพราะมิชชั่นของเราคือการทำให้โลกน่าอยู่ด้วยของอร่อย จะรักสุขภาพแค่ไหน ถ้าไม่อร่อย ก็ทานบ่อย ๆ ไม่ได้” ซารต์ กล่าว

 

ซารต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากวัตถุดิบและรสชาติที่เป็นซิกเนเจอร์ในแบบฉบับของตัวเอง ออกแบบรสชาติมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถรับประทานได้ทุกวัน ทำให้แบรนด์ BEARHOUSE ได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และมีผลประกอบการที่เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยในปี 2562 มียอดขาย 17 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 82 ล้านบาทในปี 2563 ส่วนปี 2564 แม้จะเป็นปีที่โควิด-19 ระบาดหนักมากที่สุด BEARHOUSE ก็ยังสามารถทำยอดขายได้ 117 ล้านบาท โดยในปี 2565 จากแผนการขยายสาขา รวมถึงการขยายไลน์โปรดักส์ใหม่ ๆ คาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 180 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ BEARHOUSE ยังมีแผนจะออกเครื่องดื่มในรูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ทั้งชาใส เครื่องดื่มปั่น ท็อปปิ้งใหม่ ๆ รวมถึงเครื่องดื่มที่เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพและเพิ่มความหลากหลายของเมนูให้มากขึ้น

 นายอรรถกร รัตนารมย์ (กานต์) ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด

ด้าน นายอรรถกร รัตนารมย์ (กานต์) ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด กล่าวว่า ชานมไข่มุกเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้น การมีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดทำให้เกิดสีสัน และจะยิ่งช่วยกันขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตได้อีก ซึ่งจุดแข็งและความโดดเด่นที่แตกต่างของ BEARHOUSE คือ ลูกค้าที่เป็นแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น ซึ่งมีทั้งกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน รวมถึงกลยุทธ์การทำตลาดที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง Experience โดยรวมของร้าน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารที่เข้าถึงง่าย มีการสร้างบรรยากาศด้วยเพลงที่เป็นเพลงของแบรนด์เอง และการออกแบบสร้างร้าน สร้างสเปซสำหรับนั่งรับประทานที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่มีการเปิดสาขาใหม่ 

“BEARHOUSE” ผุดสาขาเพิ่ม-ลอนช์ชูการ์ฟรีรับเทรนด์รักสุขภาพ

“เรามีจุดเริ่มต้นจากการเป็นยูทูบเบอร์ที่หลงใหลในอาหาร เพราะเราเดินทางไปหลากหลายสถานที่ เราจึงนำประสบการณ์ตรงนั้นมาใช้ในการพัฒนา โดยวางจุดยืนแบรนด์ BEARHOUSE เป็นแบรนด์พรีเมียมแมส และเป็นตัวเลือกในระยะยาวของผู้บริโภค” 

 

 กานต์ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขาย BEARHOUSE มากนัก ถึงแม้ว่ายอดขายวอล์คอินหน้าร้านจะน้อยลง แต่รายได้จากดิลิเวอรีเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดในระลอกต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ สัดส่วนยอดขายดิลิเวอรีเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 60-70% เนื่องจากสาขา BEARHOUSE มีบางส่วนที่ตั้งอยู่นอกห้างซึ่งสะดวกต่อการสั่งดิลิเวอรีในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ยอดขายสาขานอกห้างเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับช่วงสถานการณ์ปกติ

 

โดยปัจจุบันยอดขาย BEARHOUSE รวม 11 สาขา ซึ่งยังไม่รวมสาขาที่ 12 เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 4,500 แก้ว หรือเดือนละ 135,000 แก้ว และในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ค่อยๆ ดีขึ้น ยอดขายวอล์คอินหน้าร้านมีสัดส่วน 55% และดิลิเวอรี 45%