‘เบอร์แทรม(1958) ’ บุกเอเชีย ตั้งเป้าใหญ่ 5 ปี โกยเงิน 3,000 ล้าน

16 เม.ย. 2565 | 22:19 น.

เปิดยุทธศาสตร์ “เบอร์แทรม” บุกตลาดเอเชีย ทรานส์ฟอร์มองค์กร สร้างแบรนด์ “เซียงเพียวอิ๊ว-เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” ขึ้นแท่น Global Brand จัดหนักทุ่มลงทุน R&D โหมการตลาดมัดใจคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 5 ปี 3,000 ล้านบาท

หลายคนอาจจะไม่คุ้น ชื่อของ “เบอร์แทรม” แต่หากเอ่ยถึง “เซียงเพียวอิ๊ว” เชื่อว่าทุกคนย่อมรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นแบรนด์ไทยที่อยู่มายาวนานกว่า 60 ปี ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของวิถีคนรุ่นใหม่ ทำให้วันนี้ “เซียงเพียวอิ๊ว” ต้องลุกขึ้นมาทรานส์ฟอร์มตัวเองครั้งใหญ่ ภายใต้การนำทัพของ 2 ทายาทผู้บริหารเลือดใหม่ที่มารับไม้ต่อ

              

นายหิรัญ แสงหิรัญ รองประธานบริหารด้านธุรกิจ ร่วมกับนางสาวมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เบอร์แทรมมีเป้าหมายใหญ่ในการมุ่งสู่ความเป็นผู้นำ ตลาดเอเชียและเป็นโกลเบิลแบรนด์ โดยตั้งเป้า 5 ปี จะมีรายได้ 3,000 ล้านบาท

 

ด้วยยุทธศาสตร์หลักคือ การพัฒนาฐานการผลิตให้ได้มาตรฐาน GMP/PICs และ International Quality รวมไปถึงการทำการตลาดผ่าน sport marketing และอีเว้นต์ทางการตลาดเพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และนำมาพัฒนาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค

เซียงเพียวอิ๊ว               

หลังจากนี้เบอร์แทรมวางแผนการลงทุนในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา (R&D)  2 ส่วนได้แก่  1. การทำ product development โดยมุ่งไปที่ consumer centric ซึ่งจะมีสินค้าใหม่ที่มีจุดขายโดดเด่นกว่าสินค้าอื่นๆ ออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี  2. คือการลงทุนสร้างห้องแลปใหม่ เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ที่บริษัทไปเข้าไปร่วมทุน

 

รวมทั้ง food business  (แบรนด์ จอห์นโดนัท) และ essential oil therapy (แบรนด์ สบายอารมณ์) เพื่อการพัฒนาและวิจัยให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการลงทุน ขยายแวร์เฮ้าส์ หรือคลังสินค้าที่โรงงานลำลูกกา เพื่อจัดเก็บวัตถุดิบ รองรับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2 กะ

              

นอกจากนี้ยังมองหาโอกาสในขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเวลเนส เนื่องจากเบอร์แทรมเกิดและเติบโตมาจากเฮอร์เบิล โปรดักต์ นอกเหนือจากนี้จะเป็นการลงทุนในเรื่องของการตลาดและการพัฒนาสินค้าและธุรกิจที่ acquired มาก่อนหน้านี้ รวมทั้งพยายามเกาะกระแสเทรนด์โลกเช่น ช่องทางการขายอีคอมเมิร์ซ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เบอร์แทรมเริ่มมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านออนไลน์ไปยังประเทศต่างๆเพิ่มมากขึ้น

เซียงเพียวอิ๊ว

“เรามีการคุยกันในเรื่องของ NFT เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่สุดท้ายแล้วเรากลับมาดูว่าตัวเราเองเป็นบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตยามันยังไม่ใช่ธุรกิจที่ดิจิทัลมากขนาดนั้น ถึงเราจะมีการขายออนไลน์ แต่สัดส่วนก็ยังไม่ได้เยอะมาก แต่เราเอาดิจิทัลเข้ามาช่วยการบริหารจัดการข้างใน เราพยายามที่จะทำให้พนักงานทำงานเอกสารน้อยที่สุด และไปโฟกัสเรื่องของการทำอีคอมเมิร์ซ ทำครีเอทิวิตี้ คิดเรื่องของ มาร์เก็ตติ้งแทนที่จะมาทำเรื่องของงานเอกสารต่างๆ”

 

ทั้งนี้ในแง่ของผลประกอบการในปี 2019 เบอร์แทรมสามารถปิดยอดขายที่ 1,400 ล้านบาท และในปี 2020 ในช่วงแรกของการระบาดรายได้หายไป 90% ก่อนจะ recover กลับมาปิดรายได้รวมราว 1,000 ล้านบาท และในปี 2021 ที่ผ่านสามารถทำรายได้นิวไฮมากกว่า 1,400 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก

 

โดยในช่วงปกติสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากการขายในประเทศ 50% และส่งออก 50% แต่ในช่วงโควิดสัดส่วนรายได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นการขายในประเทศ 30% และส่งออก 70%  ซึ่งปัจจุบันมีการส่งออกไปกว่า 20 ประเทศ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เซียงเพียวอิ๊ว

นางสาวมีนา กล่าวอีกว่า เดิมเบอร์แทรม มีแผนที่จะทำดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชั่น แบบค่อยเป็นค่อยไป  แต่การเข้ามาของโควิดทำให้บริษัทต้องก้าวไปสู่ดิจิทัลเร็วขึ้น โดยสร้างทีมงานด้านดิจิทัลขึ้นมาใหม่ทั้งทีมเพื่อสร้างช่องทางการขายบนอีคอมเมิร์ซ ผ่าน marketplace ต่างๆ รวมทั้งพัฒนาและอัพเกรดโปรแกรมที่ทำให้การทำงานเวิร์คฟอร์มโฮมสะดวกกับพนักงานมากขึ้นและมีการ corporate กันบนออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

 

“ในแง่ของ marketing โควิดน่าจะทำให้เรากระชากตัวเองทันที เช่นทำให้เราหันกลับมามองว่าตอนนี้เราไม่ได้มีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้ที่ใหญ่ของเราเข้ามา เราก็ต้องหันกลับมาคุยกับคนไทยมากขึ้นหลังจากที่เราไม่ได้คุยกับคนไทยมานานแล้ว เพราะว่าเซียงเพียวเป็นแบรนด์ที่อยู่กับคนไทยมานานก็จริงแต่ว่าจะทำยังไงให้ต่อไปนี้คนรุ่นใหม่ที่รู้จักอยู่แล้วหันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเพิ่มขึ้น”

 

นอกจากนี้กลุ่มเป้าหมายหลักของเซียงเพียวและเป๊ปเปอร์มินท์ ฟิลด์ เป็น 2 กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เซียงเพียวจะเน้นเรื่องของการสื่อสารฟังก์ชั่นเบเนฟิต เวลาพูดถึงสินค้าของเซียงเพียวกลายเป็นว่าก่อนหน้านี้กลุ่มเป้าหมายที่เราจับจะเป็นคนที่อายุเยอะแต่สิ่งที่เรากำลังจะปรับในปีนี้และต่อๆไปเราจะค่อยๆพยายามชิบกลุ่มเป้าหมายของเซียงเพียวลงมาให้เป็นเด็กรุ่นใหม่มากขึ้น ด้วยแพลตฟอร์มที่เป็น product ที่แตกต่างออกไปหรือแม้กระทั่ง marketing campaign ใหม่ๆที่เราจะนำเข้ามาให้เข้ากับคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย

 

ส่วนเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ตั้งแต่แรกเลยไม่เคยคิดจะสื่อสารออกไปในพาร์ทของฟังก์ชั่นเบเนฟิต แต่การเป็นยาดมแบรนด์แรกที่พูดแต่เรื่องของไลฟ์สไตล์หรือนำ emotional มาขายกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า การสื่อสารออกไปจึงพูดถึงความสดชื่นอะโรมาติก รีเฟรซ

 

ในส่วนของการตลาดออนไลน์บริษัททำค่อนข้างเยอะ และทำมาตลอดไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โซเชียลมีเดีย แต่ตอนนี้มีทีมดำเนินการจึงสามารถทำการตลาดที่รวดเร็ว แอคทีฟมากขึ้นและครอบคลุมหลายๆ ส่วนของดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมากขึ้นโดยปีนี้ก็ยังมีแผนที่ทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้นอีกหลายแคมเปญด้วย

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,775 วันที่ 17 - 20 เมษายน พ.ศ. 2565