นายอธิชาติ ชุมนานนท์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัทฝ่ายการตลาด บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ภายใต้แบรนด์ “พาว มิราเคิล” เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรกำลังเป็นที่สนใจจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ว่า
ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรของประเทศไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มีมูลค่าการใช้และการส่งออกรวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้มูลค่าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%
นอกจากนี้แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ได้กำหนดเป้าหมายให้เพิ่มมูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรและให้ไทยเป็นผู้นำการส่งออกสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ทำให้ตลาดสมุนไพรไทยเติบโตก้าวกระโดด ทำให้พาว มิราเคิล มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจและเติบโตล่าสุดจึงทุ่มงบลงทุน 20 ล้านบาท ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “พาว มิราเคิล”
โดยเริ่มต้นจากการลงนามความร่วมมือกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)ในการพัฒนาระบบนำส่งของสารสกัดกัญชงและพลูคาวด้วยระบบนำส่งในระดับนาโนเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสมุนไพร ให้สามารถนำส่งสารสำคัญได้ลงลึกถึงระดับนาโนเซลล์ก่อให้เกิดสารออกฤทธิ์ใหม่ เป็นครั้งแรกของโลก ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “พาว มิราเคิล” สร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคในด้านคุณภาพสินค้า
ขณะเดียวกันยังเพิ่มศักยภาพของแบรนด์ในระดับสากล เจาะตลาดได้เพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มประเทศ CLMV และยังสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายในระดับบน ด้วยความเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่ผ่านกระบวนการนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือ เป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ในตลาดสมุนไพรไทย
“ทั้งนี้ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี บริษัทมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตลาดสมุนไพรไทย โดยพาว มิราเคิล นำเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีงานวิจัยรองรับมาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย โดยเฉพาะจากกัญชงและพลูคาว จนทำให้ประสบความสำเร็จโดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายผลิตภัณฑ์สารสกัดพูลคาวกว่า 100 ล้านบาท” นายอธิชาติ กล่าวและว่า
ผลิตภัณฑ์พาว มิราเคิลสกัดจากพืชสมุนไพรพลูคาวสายพันธุ์พิเศษ และ CBD ในกัญชง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 4 กลุ่ม1. Herb technology nutrition 2. Green superfood 3. Aromatic solution 4. Herb oral care โดยกลุ่ม Herb technology nutrition เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากที่สุด รองลงมาคือ Green superfood ตามลำดับ
สามารถทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบ CLMV โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าจากการลงทุนต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30 % และผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำสมุนไพร 1st innovation herb ในปี 2566
สำหรับผลิตภัณฑ์พาว มิราเคิลทุกผลิตภัณฑ์ต้องมี certificate ใบรับรองจากหน่วยงานที่ตรวจสอบได้ว่าไม่มีสารต้องห้าม ไม่มีสารอันตราย (Non-Toxic) ผ่านการทดสอบการแพ้ (Allergy Free) โดยผ่านการทดลองในระดับคลินิค ในสัตว์ทดลอง และมนุษย์ (Clinical Trial-Animal Trial-Human Trial) ที่ทำให้ พาว มิราเคิล ประสบความสำเร็จในตลาดสมุนไพรไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดด
อีกปัจจัยสำคัญคือ การกำหนดกลยุทธ์การทำตลาดที่ชัดเจน โดยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ บริษัทได้พัฒนา Loyalty program ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาดในการรักษาฐานลูกค้าเก่าซึ่งมีมากกว่า 5 หมื่นราย และสามารถต่อยอดจูงใจลูกค้าใหม่ให้เข้ามาในระบบสมาชิกได้มากขึ้นอีกด้วย
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,775 วันที่ 17 - 20 เมษายน พ.ศ. 2565