DRT งัด Circular Economy รับมือความเสี่ยงต้นทุนพลังงานพุ่ง

11 มี.ค. 2565 | 01:06 น.

‘DRT’ ชูแนวคิด Circular Economy รับมือความเสี่ยงจากต้นทุนพลังงานพุ่ง เน้นบริหารจัดการทรัพยากรและพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรทั้งปี 80-90% คุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ หวังรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 27-29%

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำนำหลักคิด เรื่อง Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน เข้ามาบริหารจัดการต้นทุน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 10 ปี จากวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

เป้าหมายคือ การบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยหลัก Circular Economy ที่ประกอบด้วยแนวคิด 3R หรือ Reduce Reuse Recycle เป็นแกนหลักในการดำเนินงานสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 

บริษัทฯ ได้ติดตั้ง Solar Rooftop ของโรงงานอิฐมวลเบา จังหวัดสระบุรี และโรงงานที่จังหวัดขอนแก่น ที่มีขนาดรวม 420 กิโลวัตต์ และโครงการเปลี่ยนหลอดไฟแสงสว่างมาเป็นหลอด LED ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า การนำไอน้ำที่เกิดจากการผลิตกลับมาใช้ซ้ำที่ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรสูงสุด 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่มีการติดตั้งหุ่นยนต์ Robotic, การนำระบบออโตเมชั่น (Automation) และ IoT เข้ามาช่วยยกระดับโรงงานสู่ Smart Factory เพื่อทดแทนการเพิ่มแรงงาน ควบคู่การมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีไม่ต่ำกว่า 80-90% ให้มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ 

สนับสนุนศักยภาพด้านการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ ให้แก่ผลิตภัณฑ์ ‘ตราเพชร’ ที่มีจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลังและการบริหาร Product Mix จากแผนพัฒนาสินค้าใหม่ที่ชูจุดเด่นด้าน Function และ Fashion ที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว มีรูปแบบและสีสันสวยงาม รองรับการฟื้นตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้

 

นายสาธิต กล่าวว่า ความเสี่ยงจากปัจจัยลบด้านต้นทุนพลังงานเร่งตัวขึ้น แต่เชื่อว่าบริษัทฯ จะสามารถบริหารจัดการได้ โดยมีแผนงานปีนี้ที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงสุดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแผนบริหารจัดการด้าน Product Mix มุ่งเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าในกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี เพื่อมุ่งรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 27-29% และผลักดันการเติบโต 5% ตามแผนที่วางไว้