นางสาว จรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า ปัจจุบัน WHA มี 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ธุรกิจกลุ่มแรกคือ โลจิสติกส์ซึ่งถือว่าเป็นภาพที่มีการเติบโตโดดเด่นตั้งแต่ก่อนโควิด จากซื้อขายออนไลน์มากขึ้น ซึ่งWHA มีพื้นที่ภายใต้การบริหารงานเกือบ 2.5 ล้านตารางเมตร มากกว่า 45 โลเคชั่น โดยโซนหลักยังคงอยู่ในโซนบางนา-ตราด
ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีพื้นที่รวมกันทั้งหมดเกือบ 70,000 ไร่ 12 โลเคชั่น แบ่งเป็นในไทย 11 โลเคชั่นและเวียดนาม 1 โลเคชั่น ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาการเดินทางไม่สะดวกทำให้ยอดขายได้รับกระทบแต่ในระยะยาวถือว่าเป็นภาพที่ดีเนื่องจากเกิดการเคลื่อนย้ายกระแสเงินทุน ซึ่งประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในโลเคชั่นที่นักลงทุนสนใจ
หลังจากมีการเปิดประเทศจะเห็นยอดขายที่ดีกลับเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีแผนขยายนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามเพิ่มอีก 3 แห่งซึ่งมีการพัฒนาเฟสแรกไปแล้ว 3,100 ไร่และอีก 2 นิคมอุตสาหกรรมจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปีหน้า
ธุรกิจต่อมา เป็นธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน WHA มีการบริหารจัดการธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้ำประมาณ 130 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และมีแผนการขยายธุรกิจน้ำไปที่เวียดนาม โดยลงทุนน้ำประปาที่ฮานอยเพราะเวียดนามอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านการใช้น้ำบาดาลมาเป็นการใช้น้ำปะปา และในประเทศไทยมีการลงทุนเรื่อง smart watch solution เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำได้ดียิ่งขึ้น
ในขณะที่ธุรกิจพลังงานจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 670 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ผลิตได้ประมาณ 547 เมกะวัตต์ เพราะการเติบโตของโซล่าเซลล์ที่ค่อนข้างดี และการลงทุนโซล่าเซลล์ ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งสามารถกำจัดขยะได้ 1 แสนตันต่อปี
ธุรกิจที่ 4 คือ ดิจิตอลแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอนาคตใหม่ที่ WHAให้ความสำคัญ ปัจจุบันมีดาต้าเซนเตอร์ในมือ 4 แห่ง และ 5G Tower เพื่อที่รองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้า
ด้านภาพรวมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในธุรกิจของ WHA มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี สอดคล้องกับ ภาพรวมการลงทุนในประเทศไทยที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะในช่วง 3- 4 เดือนแรกซึ่ง WHA มีการยอดติดต่อจากนักลงทุนต่างชาติมากกว่าปีที่แล้วทั้งปี จากการเคลื่อนย้ายฐานทุนเข้ามาเป็นระยะ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ
“ธุรกิจใหม่หรือดิจิตอลแพลตฟอร์ม เริ่มทำมาหลายปี เริ่มจากดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งเดิมตั้งขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ต 3 กลุ่มธุรกิจแรก รวมทั้งอนาคตที่จะมุ่งไปในเรื่องของ ดิจิตอล เฮลท์เทคซึ่งบริษัทมองภาพว่าจะทำ eco system บนนิคมอุตสาหกรรมของเรา โดยเอาดิจิตอล เฮลท์เทคขึ้นมาพัฒนาเฮลท์แคร์ต่างๆซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการเปิดโรงพยาบาลแล้วทำการรักษา แต่จะเป็นเรื่องของ Infrastructure ที่ไปได้ไกลกว่านี้
รวมทั้งมองในแง่การลงทุนใน Tech Company หรือ startup ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจหลักของ WHA ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการลงทุนใน startup เพื่อขยายฐานทางด้านของ operation และ business model ใหม่ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างโดดเด่นของ WHA ในภาพของการโฟกัสอินโนเวชั่น เทคโนโลยี มากขึ้นเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในอนาคต”