‘สยามดิสคัฟเวอรี่’ ปรับโฉม Digital Lab ปั้นคอมมูนิตี้ไอทีแก็ตเจ็ต

23 ก.ย. 2564 | 11:29 น.

สยามพิวรรธน์ รีเทิร์น เปิด “สยามดิสคัฟเวอรี่” หลังคลายล็อกดาวน์ เผยทุ่มงบกว่า 10 ล้านยกเครื่องโซน Digital Lab ปรับเพิ่มพื้นที่ พร้อมเปิดตัวแม็กเน็ตใหม่ “CEE.Store” คอมมูนิตี้คนรักไอทีแก็ตเจ็ต โดยซี ฉัตรปวีณ์-โคแอน

นายชัยโรจน์ ศรีเดชะรินทร์กุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทลโฮลดิ้ง จำกัด ในกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยามและสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า

 

หลังมาตรการคลายล็อกดาวน์ให้ธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง “สยามดิสคัฟเวอรี่” จึงเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับการปรับโฉมใหม่ของพื้นที่ Digital Lab ซึ่งเป็นโซนที่นำเสนอสินค้าด้านไลฟ์สไตล์เทคโนโลยี ไอที แก็ดเจ็ต ที่แปลกล้ำนำเทรนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับสยามดิสคัฟเวอรี่ติดอันดับ Top5 มาโดยตลอด

 

โดย Digital Lab ใช้งบลงทุนในการปรับพื้นที่กว่า 10 ล้านบาท ตั้งอยู่บนชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่ มีพื้นที่กว่า 1,000 ตรม. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 800 ตรม. แบ่งเป็น 8 กลุ่มสินค้า ได้แก่ CEE.Store, Gaming & Tech Toy, Camera, Experiential Lab, Mobile & Computer Accessories, Smart Living, Speaker & Audio, Wearable Tech ถือเป็นการรีโนเวทครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปีหลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2559

ชัยโรจน์ ศรีเดชะรินทร์กุล

แม็กเน็ตสำคัญของ Digital Lab คือ โซน Future Innovation ที่นำเสนอในรูปแบบแปลกใหม่ ได้แก่ ร้าน “CEE.Store” ร้านไอทีแก็ดเจ็ตไลฟ์สไตล์แนวใหม่แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งสยามดิสคัฟเวอรี่ได้ร่วม Co-create กับบริษัท โคแอน จำกัด (KOAN) ในกลุ่ม บมจ.คอปเปอร์ ไวร์ด ผู้นำในธุรกิจไอทีแก็ดเจ็ต และมี “ซี- ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์” Tech Promoter ร่วมสร้างคอมมูนิตี้สำหรับผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ไอทีแก็ตเจ็ต ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาเช่นกัน

 

สำหรับร้าน CEE.Store หรือ Consumer Electronic Entertainment Store เปรียบเสมือนสถานที่ Check-in แห่งใหม่ของคนที่ชอบสินค้าไอทีจะต้องแวะมา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม Trendsetter/ Gadgets-Lovers/ Early Adopter ผู้นำเทรนด์ ผู้หลงใหลนวัตกรรม, กลุ่ม Smart-Living Users คนที่ชอบใช้ชีวิตติดความทันสมัย รายล้อมไปด้วยของอัจฉริยะและกลุ่ม Techno Fashion ผู้ที่ใช้ชีวิตในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดทั้งด้านแฟชั่นและฟังก์ชัน

‘สยามดิสคัฟเวอรี่’ ปรับโฉม Digital Lab ปั้นคอมมูนิตี้ไอทีแก็ตเจ็ต

ที่นี่จึงมีทั้งสินค้า Exclusive Only @ CEE.Store , Fashion in Function, Chef‘s Table of Technology, The Gadget Hub for Trendsetter รวบรวมอินฟลูเอนเซอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อมาร่วมพูดคุย ทำความเข้าใจสินค้า ทดสอบทดลอง และ Super User Trial New Experience เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะมานำเสนอก่อนใคร

 

ทั้งนี้สยามพิวรรธน์ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) โดยในปี 2563-2564 ที่ผ่านมา มีการ Co-creation ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการค้าปลีก ได้แก่ การเปิดตัว Ecotopia โฉมใหม่ที่มุ่งเน้นสินค้าด้าน Sustainability โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ร่วมทำงานกับผู้นำความคิด แบรนด์สินค้าภายใต้แนวคิดรักษ์โลกมากมาย และการเปิดตัว Her Lab โฉมใหม่ซึ่งได้จับมือกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำและแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก

 

ขณะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ถือเป็นไฮบริดรีเทลที่ผสมผสานสินค้าบริการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่ปรารถนาการค้นพบสไตล์ของตนเอง ขณะเดียวกันก็ต้องการร่วมมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับผู้อื่นที่มีความสนใจเดียวกันในแบบไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ 

 

โดยในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมาสยามดิสคัฟเวอรี่ได้นำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองชีวิตวิถีใหม่ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าโดยมุ่งเน้นทำการตลาดทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ ทั้ง OneSiam Chat&Shop, Click & Shop, Call & Shop นอกจากนี้ ยังพยามยามนำเสนอสินค้าผ่านช่องทางอื่นๆ อาทิ การ ไลฟ์สดรีวิวและจำหน่ายสินค้า จึงมียอดขายต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์โควิดได้

 

นายชัยโรจน์ กล่าวอีกว่า การกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งพบว่า ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าลูกค้ามั่นใจในมาตรการด้านสุขอนามัยที่ศูนย์ได้ดำเนินการตามแนวทางของภาครัฐ ขณะเดียวกันสยามดิสคัฟเวอรี่ ยังเน้นการนำเสนอประสบการณ์แก่กลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องต่างๆ

‘สยามดิสคัฟเวอรี่’ ปรับโฉม Digital Lab ปั้นคอมมูนิตี้ไอทีแก็ตเจ็ต

 เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาค้นหาทดลองไอเดียใหม่ๆ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเหล่านี้ไม่สามารถหาได้บนโลกออนไลน์ แต่สยามดิสคัฟเวอรี่สามารถเชื่อม O2O ได้

 

โดยปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าวันสยาม ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่เฉลี่ย 5 หมื่นคนต่อวันในวันธรรมดาและวันเสาร์อาทิตย์เพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นคนต่อวัน คาดว่านับจากนี้จนถึงเดือนธันวาคมที่กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ยอดขายจะมีแนวโน้มในทางบวกต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิดเที่เริ่มคลี่คลาย และในอนาคตอันใกล้นี้ภาครัฐวางแผนที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถือเป็นสัญญานบวกที่ดีด้วย

 

หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,716 วันที่ 23 - 25 กันยายน พ.ศ. 2564