22 สิงหาคม 2564 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ระบุว่า บริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทย แต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงค์โปร์
รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทที่แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาดเฉกเช่นกับทุกบริษัท ช่องทางจำหน่าย ผับ บาร์ ร้านอาหาร ฯ หรือ On-Premise ปิดยาวกันข้ามปี แต่งวด 9 เดือนที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัท กลับทำออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจเพราะยอดขายเติบโตได้ 1.1% โกยเงินรวม 192,120 ล้านบาท
ในขณะที่กลุ่มธุรกิจสุรา ยังคงทำยอดขายเติบโตทั้งเชิงมูลค่า และ เชิงปริมาณ สะท้อนว่า ผู้บริโภคยังซื้อสินค้า และการบริโภคหรือดื่มยังมีอยู่ ประกอบกับสินค้าในพอร์ตโฟลิโอมีความหลากหลาย มีความยืดหยุ่นให้เข้ากับร้านค้าต่างๆ หรือช่องทาง Off-premise เลยทำให้ตัวเลขยังฉลุย
นอกจากนี้การเติบโตของธุรกิจสุรายังสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคหันไปซื้อแอลกอฮอล์ ราคาประหยัด มากขึ้น เพราะหากเทียบพอร์ตโฟลิโอสุราของ เจ้าสัวเจริญ เหล้าขาว เหล้าสีหลักไม่กี่ร้อยบาท เป็นพอร์ตที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับพอร์ตพรีเมี่ยมนั่นเอง ขณะที่ธุรกิจสุราใน เมียนมา มีความแข็งแกร่งไม่แพ้กัน โดยเฉพาะหมวด วิสกี้ เพระรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนกลุ่มธุรกิจเบียร์ ยอดขายเชิงมูลค่าโตแต่ในเชิงปริมาณหดตัวลง 1.1% เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์หดตัวเช่นกัน ตรงข้ามกับธุรกิจร้านอาหาร เพราะรายได้ดิ่งเกือบ 13% เนื่องจากสาขาในห้างค้าปลีกเจอมาตรการล็อกดาวน์ เท่ากับตัดโอกาสการขายมหาศาล
ส่วนช่องทางเดลิเวอรี่ ออนไลน์ หรือโมเดลใหม่ๆ แม้จะพยายามรุกตลาดแต่กำลังซื้อของผู้บริโภคไม่เอื้อมากนักเนื่องจากต้นทุนการสั่งเดลิเวอรี่ค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ดี ในรายงานที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ไทยเบฟ เผยเพียงกำไรก่อนหักภาษี (EBITDA) อยู่ที่ 36,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ส่วนกำไรสุทธิจะเพิ่ม หรือ ลดลง ต้องติดตามตอนปิดบัญชีงบประมาณกันอีกครั้ง