แบรนด์สตอรี
กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
SOCIAL DISTANCING
SPIRITUALLY CONNECTED
คำขวัญของชาวมหานครนิวยอร์กวันนี้ครับ ในเวลาของ CORONAVIRUS OUTBREAK
“รักแท้แพ้ใกล้ชิด” เวลานี้จึงใช้ไม่ได้ “รักจริง” ควรจะต้องห่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คนสูงอายุ” ที่ตอนนี้เขาเอาอายุ 70 ปี เป็นเกณฑ์ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสถิติมีว่าหากติดไวรัสตัวนี้แล้ว อัตราเสียชีวิตค่อนข้างสูง เสียเปรียบคนหนุ่มสาว
ในอดีต คนรวยมากๆ พอมีอายุมากๆ เข้า เกิด “ความกลัวตาย” มากกว่าคนปกติ (โดยเฉพาะ “คนจน” ที่มักจะคิดว่า เมื่อไหร่จะตาย (เสียที))
หลายอภิมหาเศรษฐีในบั้นปลายจึงไม่ยอมให้ “คนเข้าพบ” ด้วยความคิดว่า คนคือ “พาหะ” ที่จะนำโรคมาให้ป่วยไข้
ถ้าตัดปัญหา “สำคัญ” ช่องทางนี้ โอกาสที่จะมี “อายุยืน” ไม่อยากตายด้วย “เสียดาย” ทรัพย์ศฤงคารบนโลกนี้ที่อำนวยสารพัดความสุข เป็นที่ทราบกันดีว่า ของที่มีทั้งหลายทั้งปวง “ตายไปแล้ว ก็เอาไปไม่ได้”
โรคระบาดร้ายแรง เคยเกิดขึ้นมาในอดีตมาแล้ว
ในสมัยรัชกาลที่ 2 โรคห่า “อหิวาตกโรค” ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ศพเกลื่อนกลาด เผากันไม่ทัน แร้งลงมาจิกกิน เป็นที่มาของวลี..... “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์”
ราษฎรต้อง “จำศีล” อยู่ในบ้าน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงให้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบรมธาตุออกแห่ รับสั่งให้ทำพระราชพิธี “อาพาธพินาศ” ยิงปืนใหญ่รอบกำแพงพระบรมมหาราชวัง 1 คืน ขับไล่ ยักษ์มาร ภูติผีปีศาจ หยุดยั้ง “ห่ากินเมือง”
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงศีล ทรงให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ฯลฯ ทุกคนงดกิจราชการ ให้ตั้งใจทำบุญ สวดมนต์ให้ทาน ประชาชนรักษาศีลอยู่แต่ในบ้าน ผลการระบาดของเชื้อลดลง
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับ “อาพาธพินาศ” ว่า.....พระราชพิธีนี้ อาจไม่มีผลทางการแพทย์ แต่ก็ช่วยระงับความกังวลใจให้แก่ประชาชนในยามทุกข์.....
ทรงแสดงพระปรีชาชาญว่า......สวดมนต์ปัดเป่าโรคภัย มิใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสั่งสอนไว้ โรคภัยไม่ได้เกิดขึ้นจากผี แต่เกิดจากธรรมชาติ ดิน ฟ้า อากาศ และการประพฤติอยู่กินของมนุษย์.......
ปี 2455 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 มี “โรคผีดาษ” เกิดขึ้นชุกชุมอย่างรุนแรง ทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงเป็นกังวลและเป็นห่วงประชาชน...กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงนครบาล (กทม.สมัยนั้น) ตกลงว่าจะไม่บังคับประชาชนให้มารับ “การปลูกฝี” ใช้วิธีแนะนำแทน....
พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสว่า...ในการปลูกฝีกันอย่างเป็นการใหญ่นี้ ถ้าเงินตามงบประมาณมีไม่พอจะใช้ พระเจ้าอยู่หัวทรงยินดีออกพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
ในโลกพัฒนาปัจจุบันที่ทันสมัย “โรค” และ “ข่าว” ระบาดไปเร็วมาก และมนุษย์ควรจะใช้ประโยชน์ “เรียนรู้” และ “ปรับพฤติกรรม” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต้านโรค
ในสงคราม COVID-19 นี้ ทำให้คิดถึงทฤษฎีของปราชญ์วิทยาศาสตร์ลือนาม CHARLES DARWIN : “SURVIVAL OF THE FITTEST”
“ใครดีใครอยู่”
เราต้องเอาชนะสงครามเชื้อโรคตัวนี้ให้ได้
นึกถึงนิทาน CLASSIC ของชาวแอฟริกัน
ชาย 2 คน หลงป่าไปเจอสิงห์โตที่อยู่ห่างไกลไปไม่มาก ชายคนแรกเริ่มผูกเชือกรองเท้าให้แน่น เพื่อนคนที่อยู่ข้างร้องทัก เอ็งจะวิ่งแข่งกับสิงห์โตเจ้าป่าไหวหรือ ชายคนแรกรีบตอบ ไม่หรอกจะวิ่งแข่งกับเอ็ง ใครจะหนีได้เร็วกว่ากัน.............ฮา
CASE นี้เราคงไม่ต้องวิ่งแข่งหนีเชื้อโรคและปล่อยให้เพื่อนติดหรอกครับ หากต้องรู้ทัน เตรียมตัว สร้างภูมิคุ้มกัน ให้แข็งแรง “จำศีล” ทำตัวหยิ่งไม่ให้ใครพบง่ายๆ สักพัก
ไม่วิตกจริต ไม่เครียด เพราะความเครียดไม่น่าจะดีต่อสุขภาพ มองโลกในแง่ดีนะครับ ขนาดนายกฯอังกฤษ BORIS JOHNSON ที่ติดและขอ QUARANTINED ตัวเอง ยังมี “กำลังใจ” ที่จะทำงาน
“THINGS ARE GOING TO GET WORSE BEFORE THEY GET BETTER”
ขอให้เราผ่าน “ฝันร้าย” นี้ไปด้วยกันครับ
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,562 วันที่ 2-4 เมษายน 2563