'ประยุทธ์' เปิดหน้าดิน EECi ก่อสร้างเมืองนวัตกรรมชั้นนำของภูมิภาค

27 ก.พ. 2562 | 09:22 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

'ประยุทธ์' เป็นประธานเปิดหน้าดินเดินหน้าก่อสร้างอีอีซีไอ จ.ระยอง สวทช. ประเดิมผุดศูนย์วิจัยและนวัตกรรม มูลค่าลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท พร้อมโรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี มูลค่า 3,400 ล้านบาท เปิดดำเนินการให้นักลงทุนเข้าใช้พื้นที่ปี 2564

(27 ก.พ. 62) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดหน้าดินก่อสร้างเขตนวัตกรรมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซีไอ และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีกำหนดเริ่มต้นการก่อสร้างกลุ่มอาคารเมืองนวัตกรรมภาคตะวันออก ระยะที่ 1 บนพื้นที่ 96 ไร่ ในเดือน มี.ค. 2562 นี้ โดยอยู่ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

 

[caption id="attachment_395631" align="aligncenter" width="503"] พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา[/caption]

นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า สวทช. ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นเจ้าภาพหลักในการพัฒนา EECi ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในทุกภาคส่วน ให้เป็นศูนย์กลางการทำวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดไปสู่การใช้งานจริงเชิงพาณิชย์และเชิงสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0


86114

โดย EECi มีอุตสาหกรรมเป้าหมาย 6 ด้าน ได้แก่ 1.เกษตรสมัยใหม่และเทคโนโลยีชีวภาพ 2.เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 3.แบตเตอรีประสิทธิภาพสูงและขนส่งสมัยใหม่ 4.ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 5.เทคโนโลยีการบินและอวกาศ และ 6.เครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งจะร้อยเรียงร่วมกันพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bioeconomy) ของไทยให้มีความเข้มแข็งยั่งยืน และจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ การเปิดหน้าดินถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ภายในระยะเวลา 3-5 ปีจากนี้ พื้นที่กว่า 3,455 ไร่นี้ของวังจันทร์วัลเลย์ จะได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมสมบูรณ์ มีสภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ตั้งเป้าที่จะให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมนวัตกรรมชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต ประกอบไปด้วย สถาบันการศึกษา ศูนย์วิจัย ห้องทดลอง โรงงานต้นแบบ โรงงานสาธิต และศูนย์วิเคราะห์ทดสอบชั้นนำ พร้อมสิทธิประโยชน์สำหรับเอกชนที่เข้ามาดำเนินการวิจัยและสรรสร้างนวัตกรรม รวมถึงยังมีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นอีกมากมาย เช่น ที่พักอาศัย โรงพยาบาล โรงแรม และ Community Market รวมไปถึงมีการผ่อนปรนกฎหมาย เพื่อเอื้อต่อการทดสอบนวัตกรรมใหม่ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้พัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ


VTK_7131

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า การก่อสร้างในเฟสแรกในช่วงระยะเวลา 2 ปีต่อไปนี้ จะเป็นการก่อสร้างในส่วนของอาคารหลัก มูลค่าการลงทุนกว่า 1,100 ล้านบาท โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ EECi, โรงงานต้นแบบ และโรงเรือนอัจฉริยะของ BIOPOLIS (เมืองนวัตกรรมชีวภาพ) รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ARIPOLIS (เมืองนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ), SPACE INNOPOLIS (เมืองนวัตกรรมด้านการบินและอวกาศ) ระยะเริ่มต้น ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในต้นปี 2564

นอกจากนี้ ยังจะมีการลงทุนในส่วนของโรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท ในช่วงปี 2563-2565 เพื่อสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตทางการเกษตรและทรัพยากรชีวภาพของไทย

 

[caption id="attachment_395635" align="aligncenter" width="335"] นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล[/caption]

โดยที่ผ่านมา มีภาคเอกชนแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EECi อาทิ อุตสาหกรรมฐานชีวภาพ อุตสาหกรรมเกษตรก้าวหน้า อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน อุตสาหกรรมอากาศยานไร้คนขับ โดยสิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับ ประกอบด้วย สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวสำหรับจัดตั้งศูนย์วิจัย และการเช่าพื้นที่ในอาคารเพื่อการวิจัยและนวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถใช้สอยร่วมกัน อาทิ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ เครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบ โรงงานผลิตชิ้นงานต้นแบบ โคเวิร์คกิ้งสเปซ สนามทดลองและทดสอบ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% คงที่สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับสูง การอำนวยความสะดวกในเรื่องวีซ่าทำงานสำหรับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ การเข้าถึงพื้นที่ผ่อนปรนกฎระเบียบเพื่อการทดสอบนวัตกรรม (Regulatory Sandbox) และการเข้าถึงนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญของรัฐต่าง ๆ

สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EECi วางสัดส่วนการลงทุนมาจากภาครัฐไม่น้อยกว่า 33,170 ล้านบาท และเหนี่ยวนำการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรมให้เกิดขึ้นกว่า 110,000 ล้านบาท ภายในเวลา 20 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการลงทุนดังกล่าวได้กว่า 271,000 ล้านบาท

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า สวทช. ได้ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนา EECi ให้เป็นเมืองนวัตกรรมใหม่ที่ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดย ปตท. มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคบนพื้นที่ 3,455 ไร่ ของ EECi ด้วยงบกว่า 4 พันล้านบาท ให้มีความทันสมัย ในรูปแบบ Smart Natural Innovation Platform เอื้อต่อการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมครบวงจร พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ รองรับการขยายผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อดึงดูดการลงทุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลก


VTK_7052

"ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี กลุ่ม ปตท. ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความยั่งยืน 3 ด้านอย่างสมดุล (หลัก 3P) ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม (People) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Planet) และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Prosperity) สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ EECi นี้ ปตท. ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ กลุ่ม ปตท. จึงพร้อมให้การสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน"

ทั้งนี้ ปตท. มุ่งหวังให้โรงเรียนกำเนิดวิทย์และสถาบันวิทยสิริเมธี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ EECi เป็นแหล่งกำเนิดบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนางานวิจัยนวัตกรรมชั้นสูง เอื้อต่อการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) ตลอดจนมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Innovation Platform และ Smart Community เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ EECi อย่างยั่งยืน อันจะช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล อันเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติให้มั่นคงอีกด้วย

595959859