สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจัดงานสัมมนาธุรกิจระหว่างไทยและสาธารณรัฐเช็ก (Thai-Czech Business Forum and Networking Lunch) โดยได้รับเกียรติจาก นายอันเดรจ บาบิส นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเช็ก, ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงาน และกล่าวถึงความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ รวมไปถึงผู้แทนจากภาคเอกชนของสาธารณรัฐเช็กในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต ไซเบอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนมุมมองการทำการค้าระหว่างกัน ณ ห้องบอลรูม 1-2 โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
[caption id="attachment_376755" align="aligncenter" width="503"]
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม[/caption]
[caption id="attachment_376753" align="aligncenter" width="503"]
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย[/caption]
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ไทยมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ต้อนรับการมาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเช็กและคณะนักธุรกิจ เป็นเหมือนการทลายกำแพงทางการค้าของทั้ง 2 ชาติ ผ่านความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น โดยไทยกับสาธารณรัฐเช็กมีความสัมพันธ์ทางการฑูตมานานถึง 45 ปี และในอนาคต ก็จะมีความร่วมมือทางการค้ามากขึ้น เพื่อพัฒนาผลิตภาพการผลิต หรือ Productivity ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไทยถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการส่งสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ได้ อีกทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังมีบทบาทในการส่งเสริมอุตสาหกรรมทั้งหมดของประเทศ ผ่านการลงนามความร่วมมือทางการค้า หรือ MOU มาตั้งแต่ปี 2556 ทำให้การทำธุรกิจของภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นถึงแม้เราจะมีความสัมพันธ์ทางการฑูตมาถึง 45 ปีแล้วก็ตาม
[caption id="attachment_376754" align="aligncenter" width="503"]
อันเดรจ บาบิส นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเช็ก[/caption]
นายอันเดรจ บาบิส นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐเช็ก เปิดเผยว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะมีการจัดประชุมหรือร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับการมาเยือนของสาธารณรัฐเช็กในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่พิเศษเป็นอย่างมาก เพราะนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทางการฑูตที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเยือนด้วยตนเอง หากมองย้อนกลับไปในหลายทศวรรษก่อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยนั้น ได้ยืนอยู่บนพื้นฐานความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจมาตลอด และหลังจากการได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไ้ด้มีการหารือในเรื่องนโยบายการดำเนินเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งไทยกับสาธารรัฐเช็กจะร่วมมือกัน 3 ด้าน การพัฒนาด้านการวิจัยและพัฒนา หรือ R and D, นวัตกรรม และการเเลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างกัน โดยถือว่าประเทศไทยมีความสำคัญในการเป็นประตูเปิดไปสู่เอเชียแปซิฟิก