ปปง. บุกยึดทรัพย์ 4.6 พันล้าน! บิ๊ก "โอเอ" พันทัวร์ศูนย์เหรียญ

24 ธ.ค. 2561 | 13:54 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ปปง. ผนึกตำรวจลุยภูเก็ต! ยึดอายัดทรัพย์ บิ๊ก "โอเอ ทรานสปอร์ต" พันคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ กว่า 4,600 ล้าน พบเลี่ยงภาษีร่วม 7,000 ล้านบาท

ปฎิบัติการยึดทรัพย์ขบวนการที่เกี่ยวข้องกับ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองเลขาธิการฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. ร่วมกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่สรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่ศาลแพ่งมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินคดีของ นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี กับพวก รวมมูลค่ากว่า 4,600 ล้านบาท


ปปง.1

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ปปง. บูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร เป็นต้น เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญ ด้วยการยึดและอายัดทรัพย์สินในรายคดีนายธงชัยกับพวก หรือ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ประกอบด้วย ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เช่น อาคารชุด โรงแรมหรูใน จ.ชลบุรี บริษัทจำหน่ายเครื่องประดับและอัญมณีใน จ.ภูเก็ต จำนวน 97 รายการ มูลค่า 2,964 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวน 30 รายการ มูลค่า 136 ล้านบาท และสลากออมสิน จำนวน 2 รายการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดทั้งสิ้น 4,600 ล้านบาท


ปปง.3

ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากกรมสรรพากรให้ดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดในเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งกรมสรรพากรตรวจสอบการชำระภาษีของ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554–2559 พบว่า มีการหลีกเลี่ยงภาษีเป็นวงเงินกว่า 7,000 ล้านบาท อันเป็นความผิดตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งตามมาตรา 37 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ให้ถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


ปปง.2

โดยทรัพย์สินที่ได้จากการยึดและอายัดในครั้งนี้ สำนักงาน ปปง. จะดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป หากประชาชนพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ปปง. ได้ที่สายด่วน ปปง. 1710

595959859