ทอท. แจงรถเข็นกระเป๋าดอนเมืองไม่พอ เหตุผู้โดยสารพุ่งก้าวกระโดด

04 ธ.ค. 2561 | 06:39 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ทอท. ยอมรับมีปัญหารถเข็นกระเป๋า สนามบินดอนเมือง ไม่พอบริการผู้โดยสารในช่วงพีค เหตุผู้โดยสารโตแบบก้าวกระโดด เร่งหาทางแก้ไข เพิ่มทั้งจำนวนพนักงานบริการและจำนวนรถ

เรืออากาศโท สัมพันธ์ ขุทรานนท์ รองผู้อำนวย การท่าอากาศยานดอนเมือง (สายปฏิบัติการ) บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) เผยถึงกรณีที่มีปัญหารถเข็นกระเป๋าขาดแคลนในบางช่วงที่สนามบินดอนเมือง ว่า ทอท. ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท นำไกรยูนิเวอร์แซล กรุ๊ป จำกัด ให้บริการรถเข็นกระเป๋าแบบครบวงจรเป็นระยะเวลา 7 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2559 ถึงวันที่ 1 ก.พ. 2566 โดยในสัญญาระบุว่า ในปีที่ 3 บริษัทฯ ต้องจัดหารถเข็นกระเป๋าให้บริการทั้งสิ้น จำนวน 2,900 คัน


516397

โดยแบ่งเป็น รถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก จำนวน 600 คัน รถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง จำนวน 2,285 คัน และรถเข็นกระเป๋าขนาดใหญ่ จำนวน 15 คัน ซึ่งในส่วนของการบริหารจัดการสนามบินดอนเมืองจะจัดรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง (ประมาณ 80 % ของจำนวนรถเข็นกระเป๋าทั้งหมด) ไว้ให้บริการ ณ บริเวณสายพานรับกระเป๋าภายในโถงผู้โดยสารขาเข้า อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 และบริเวณสายพานรับกระเป๋าภายในโถงผู้โดยสารขาเข้า อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 พื้นที่ละประมาณ 700 คัน จากจำนวน 2,285 คัน หรือคิดเป็น 60% ของจำนวนรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารขาเข้าในช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 – 20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารมากที่สุด พบว่า มีเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวน 19 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 4,600 คน และเที่ยวบินขาเข้าภายในประเทศ จำนวน 144 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 14,000 คน ซึ่งอาจทำให้ปริมาณรถเข็นกระเป๋ามีไม่เพียงพอในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ที่กำกับดูแลรถเข็นกระเป๋าบริเวณสายพานรับกระเป๋าได้มีการเร่งรัดจัดเก็บรถเข็นกระเป๋าที่ผู้โดยสารนำออกไปใช้งานด้านนอกอาคารกลับเข้ามาให้บริการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ทางบริษัทฯ จัดเจ้าหน้าที่เก็บรถเข็นกระเป๋าปฏิบัติงานในพื้นที่ต่าง ๆ ของอาคารผู้โดยสาร ทั้งอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 และอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 ตลอด 24 ชั่วโมง มีการจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50 คนต่อวัน


516398

โดยตามเงื่อนไขสัญญาเลขที่ 7CH9-580001 ลงวันที่ 20 ส.ค. 2558 ข้อ 3.6 ระบุ "ผู้รับจ้างต้องจัดหาบุคลากร และอุปกรณ์ที่เหมาะสมในจำนวนที่เพียงพอสำหรับการจัดเก็บรถเข็นกระเป๋าที่ผู้โดยสารใช้งานแล้ว ไปเก็บในพื้นที่ที่ ทอท. กำหนดไว้ และต้องดูแลให้มีการกระจายจำนวนรถเข็นกระเป๋าอย่างเหมาะสม ตามความต้องการใช้งานตลอดระยะเวลาของสัญญา" และจากการตรวจสอบการลงเวลาเปิด–ปิดช่องทางนำรถเข็นเข้าออกพื้นที่หวงห้ามตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานแล้ว พบว่า ในห้วงระหว่างเวลา 17.00 – 20.00 น. มีการลงเวลาการนำรถเข็นเข้าในบริเวณพื้นที่สายพานรับกระเป๋าเฉลี่ยทุก 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ดี ทอท. ได้จัดทำข้อกำหนดรายละเอียดในการจัดจ้างบริษัทฯ และขอตั้งงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่สนามบินดอนเมืองเพิ่งเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากเปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งในช่วงปีนั้นยังมีจำนวนผู้โดยสารไม่มาก จากข้อเท็จจริงสนามบินดอนเมืองมีจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด


516400

โดยในปี 2556 มีผู้โดยสารที่มาใช้บริการจำนวนประมาณ 15 ล้านคน ต่อมาในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนประมาณ 28 ล้านคน และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาถึงปี 2561 เป็นจำนวน 40.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าอัตราการเพิ่มของจำนวนรถเข็นกระเป๋าในแต่ละปีตามสัญญา ที่กำหนดให้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10% ทำให้จำนวนรถเข็นกระเป๋าตามสัญญาไม่เพียงพอต่อการให้บริการ

ดั้งนั้น ทอท. จึงได้สำรวจและเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้รถเข็นกระเป๋าขนาดเล็กและขนาดกลางของผู้โดยสาร ณ บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าและขาออก อาคาร 1 และอาคาร 2 สนามบินดอนเมือง ในการรวบรวมฐานข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการการใช้รถเข็นกระเป๋า เพื่อที่จะดำเนินการเพิ่มจำนวนรถเข็นกระเป๋าให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร จากนั้นจึงมีการหาแนวทางในการแก้ไข แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้


595959859

ระยะที่ 1 ขอให้บริษัทฯ เพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเก็บรถเข็นกระเป๋า จากเดิม 50 คนต่อวัน เป็น 60 คนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2561 ตลอดจนเร่งรัดการจัดส่งมอบรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง ซึ่งตามสัญญาจะต้องเพิ่มขึ้นจำนวน 215 คัน จากเดิมจำนวน 2,285 คัน เป็นจำนวน 2,500 คัน โดยมีกำหนดส่งมอบในวันที่ 1 ก.พ. 2562 เป็นส่งมอบภายในวันที่ 25 ธ.ค. 2561

ระยะที่ 2 มีแผนที่จะขออนุมัติงบประมาณจัดหารถเข็นกระเป๋าเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของผู้โดยสารตามผลการสำรวจของ ทอท. ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2563 พร้อมกับขออนุมัติงบประมาณเพื่อเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับจำนวนรถเข็นกระเป๋าที่เพิ่มขึ้น

เรืออากาศโท สัมพันธ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันระบบ RFID สามารถใช้งานได้ตามสัญญา ซึ่งจากการตรวจสอบในแต่ละเดือน มีจำนวนรถเข็นกระเป๋าครบถ้วน หรือ ในกรณีที่มีรถเข็นกระเป๋าไม่ครบ เนื่องจากการใช้งานกระจายออกนอกพื้นที่การให้บริการ บริษัทฯ ได้นำรถเข็นกระเป๋าสำรองมาเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามสัญญา แต่อย่างไรก็ตาม ทดม. ได้ตั้งคณะทำงานฯ เพื่อพัฒนาระบบ RFID ที่ติดตั้งใช้งานบนรถเข็นกระเป๋า ณ สนามบินดอนเมือง ให้มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ได้กำชับบริษัทฯ ให้ทำการตรวจสอบและจัดเก็บรถเข็นกระเป๋าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงนำรถเข็นกระเป๋าที่จัดเก็บแล้วมาเพิ่มเติมในจุดที่ ทอท. กำหนดตามเงื่อนไขสัญญาด้วยความรวดเร็วต่อไป

595959859