One Belt One Road กับการเดินหน้าของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงCLMVT
แชร์
26 ต.ค. 2561 | 08:32 น.
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน จัดงานสัมมนา One Belt One Road กับการเดินหน้าของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (CLMVT) ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยมี รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเปิดงาน รศ.ดร.ชยันต์ ตันติวัสดาการ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เป็นผู้กล่าวรายงาน
นางหยาง หยาง ที่ปรึกษาด้านการเมืองและสารสนเทศสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ “One Belt One Road กับโอกาสของประเทศในกลุ่ม CLMVT” โดยได้กล่าวถึงความก้าวหน้าของ One Belt One Road ว่าในปัจจุบันมีประเทศที่เข้าร่วม 103 ประเทศ มูลค่าการค้าขายที่เกิดขึ้นมีกว่า 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีการลงทุนกว่า 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยหัวใจหลักของยุทธศาสตร์นี้ คือ การเติบโตร่วมกันของทุกประเทศ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการที่ทุกประเทศเข้าใจแนวคิดของ One Belt One Road ว่าเป็นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่างๆ เข้าด้วยกันทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อผลประโชน์ร่วมกันทางด้านการค้า การลงทุน และการเชื่อมประสานกันของระบบการเงิน
สำหรับการเติบโตของ CLMVT นั้น ประเทศจีนถือได้ว่าเป็นคู่ค้าหลักโดยมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นจาก 1.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2555 เป็น 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 70% ประเทศจีนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประเทศใน CLMVT ให้เติบโตไปพร้อมกับการเติบโตของประเทศจีน ด้วยการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการค้าและการลงทุน เช่น การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นที่ฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาธุรกิจ E-Commerce การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการใช้ Big Data และ Cloud การผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันทางศุลกากร โดยประเทศจีนหวังว่า ประเทศในกลุ่ม CLMVT และประเทศบนเส้นทาง One Belt One Road มีความเข้าใจหลักการของ One Belt One Road แล้วจะนำไปสู่การผลักดันนโยบายนี้ร่วมกันให้สามารถเกิดขึ้นได้จริง
ในช่วงการเสวนา ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กล่าวถึงนโยบาย One Belt One Road ว่า CLMV มีบทบาทที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เพราะมีมูลค่าการค้าขายประมาณ 11% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจถึง 7%-8% ต่อปี ด้วยทิศทางเช่นนี้ ประกอบกับนโยบาย One Belt One Road การค้าของไทยกับประเทศจีนและประเทศในกลุ่ม CLMV จะเปลี่ยนจากการค้าชายแดนไปเป็นการค้าข้ามพรมแดน ความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการเงินจะเกิดขึ้นจากความเชื่อมโยงสองด้าน ด้านแรกเกิดจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศ CLMVT จะทำให้ไทยสามารถเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศจีนได้ง่ายขึ้น ด้านที่สองเป็นการเชื่อมโยงผ่าน E-Commerce ดังนั้น ประเทศไทยจำเป็นจะต้องยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้สามารถค้าขายได้ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าไทย