“สนธิรัตน์” สั่งสำรวจโอกาสทางการค้าของไทย หลังกีดกันการค้าพุ่ง พบ 3 กลุ่มใหญ่ เหล็กและอะลูมิเนียม เคมีภัณฑ์ อาหารทะเลสดแช่เย็น/แช่แข็ง มีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น ขณะข้อมูล 9 เดือนไทยถูกคู่ค้าใช้มาตรการกีดกัน 15 รายการ
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ทำการสำรวจสถานการณ์การใช้มาตรการทางการค้าของประเทศต่างๆ เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (CVD) และมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (SG) ตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ติดตามการใช้มาตรการทางการค้าของประเทศต่างๆ ว่าจะส่งผลดี ผลเสียต่อไทยอย่างไร เพื่อที่จะได้วางแผนรับมือหรือใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
[caption id="attachment_332307" align="aligncenter" width="503"]
อดุลย์ โชตินิสากรณ์[/caption]
ทั้งนี้พบ มีสินค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเหล็กและอะลูมิเนียม กลุ่มเคมีภัณฑ์ และกลุ่มอาหารทะเลสดแช่เย็น/แช่แข็ง ที่ประเทศนำเข้ารายสำคัญได้ใช้มาตรการกับประเทศผู้ส่งออก แต่ไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น จากการส่งออกสินค้าเข้าไปแทนคู่แข่งในตลาดที่มีการใช้มาตรการ
โดยสินค้ากลุ่มเหล็กและอะลูมิเนียม ประเทศผู้นำเข้าเหล็กที่สำคัญ เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย ได้มีมาตรการ AD/CVD/SG กับสินค้ากลุ่มเหล็กกับประเทศคู่แข่งของไทยจำนวนมาก แต่ไทยไม่ถูกใช้มาตรการ หรือได้รับยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการ เช่น ออสเตรเลียใช้มาตรการ AD/CVD กับสินค้าเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบอะลูมิเนียมสังกะสีจาก จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดีย, ออสเตรเลีย สหรัฐฯ แคนาดา ใช้มาตรการ AD/CVD กับสินค้าอะลูมิเนียมเส้นหน้าตัด จาก จีน เวียดนาม และมาเลเซีย และสหภาพยุโรป เรียกเก็บอากรปกป้อง (ชั่วคราว) กับสินค้ากลุ่มเหล็ก 28 กลุ่มสินค้า กับทุกประเทศ โดยไทยได้รับการยกเว้น
“สินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม เป็นสินค้าสำคัญที่ใช้เป็นส่วนประกอบของรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ปัจจุบันประเทศผู้นำเข้าหลักยังไม่มีการใช้มาตรการ AD/SG กับสินค้าของไทย ทำให้ไทยมีโอกาสที่จะขยายตลาดส่งออกสินค้าเหล่านี้ได้ โดยไทยจะต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้ชั้นคุณภาพที่มีมาตรฐานตรงความต้องการของประเทศปลายทาง”
ส่วนกลุ่มเคมีภัณฑ์ จีนใช้มาตรการ AD กับสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์จำนวน 20 รายการ เช่น Polyformaldehyde copolymer, Vinylidene Chloride, Acetone และ Perchlorethylene เป็นต้น จาก ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ และอินเดีย ใช้มาตรการ AD กับสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์จำนวน 48 รายการ เช่น Linear Alkyl Benzene, O-Acid, Ofloxacin, Resorcinol, Dimethylacetamide และ Methyl Ethyl Ketone or MEK เป็นต้น จากจีน
ขณะที่กลุ่มอาหารทะเลสดแช่เย็น/แช่แข็ง สหรัฐฯ: ใช้มาตรการ AD กับสินค้าเนื้อปลาแช่แข็ง (Certain Frozen Fish Fillets) จากเวียดนาม ในอัตรา63.88 %ของราคา CIF โดยไทยไม่ถูกใช้มาตรการ และยังใช้มาตรการ AD กับสินค้ากุ้งแช่แข็ง (Certain Frozen Warmwater Shrimp) จาก จีน112.81% อินเดีย 110.90% บราซิล 67.80 % และเวียดนาม 25.76 % ในขณะที่ไทยถูกเรียกเก็บอากร AD ในอัตรา5.34% ของราคา CIF
สำหรับการใช้มาตรการ 232 ในการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของกลุ่มสินค้าเหล็ก 25% และกลุ่มสินค้าอะลูมิเนียม 10% ของสหรัฐฯ และทำให้มีการตอบโต้การใช้มาตรการดังกล่าวจากหลายประเทศ เช่น การเปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการ SG สินค้าเหล็กของสหภาพยุโรป ตุรกี และกลุ่ม Eurasian Economic Union ได้แก่ อาร์เมเนีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และรัสเซีย แต่ไทยยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้มาตรการดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนการนำเข้าเหล็กจากไทยไม่เกิน3% ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด จึงทำให้ไทยได้รับการยกเว้นการใช้มาตรการ SG
ส่วนผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการ 232 ทำให้สินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่จีนส่งไปสหรัฐฯ ไม่ได้ ได้ไหลเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งไทย เรื่องนี้กรมได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด หากผู้ผลิตในไทยได้รับความเสียหาย สามารถที่จะขอให้เปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการเยียวยาทางการค้าได้ และยังได้มีการประสานกับศุลกากรสหรัฐฯ เพื่อติดตามการแอบอ้างแหล่งกำเนิดเป็นสินค้าไทย เพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในอนาคต
สำหรับในช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีสถิติที่ต่างประเทศใช้มาตรการกีดกันทางการค้ากับสินค้าของไทย โดยใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) 10 รายการเป็นกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ 7 รายการ และกลุ่มเหล็ก 3 รายการ จาก 8 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐฯ บราซิล เกาหลีใต้ จีน และปากีสถาน ใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (SG) 2 รายการ จากประเทศสหรัฐฯ
ขณะที่ไทยมีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) กับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศรวม 13 รายการ กลุ่มสินค้าที่ถูกใช้มาตรการมากที่สุด คือ สินค้ากลุ่มเหล็ก 12 รายการ และสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ 1 รายการ จาก 20 ประเทศ โดยประเทศที่ถูกใช้มาตรการมากที่สุด คือ จีน 12 รายการ รองลงมา คือ เกาหลีใต้ 6 รายการ และมีการใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (SG) กับสินค้านำเข้า 3 รายการ ได้แก่ 1.เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆ ชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน 2.เหล็กแผ่นรีดร้อนไม่เจือชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน และ 3.เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนเจืออัลลอยหน้าตัดรูปตัว H