หากศก.โตร้อยละสี่ “18 ปีไทยพ้นจน” “อภิศักดิ์”ชงพักหนี้เกษตรกรสามปี

19 ก.ค. 2561 | 11:25 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

หากศก.โตร้อยละสี่ “18 ปีไทยพ้นจน” “อภิศักดิ์”ชงพักหนี้เกษตรกรสามปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐถาพิเศษ "แผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง" ในงานสัมนา"ทิศทางหุ้นครึ่งปีหลัง ฟุบหรือไปต่อ” ใจความว่า เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่อเนื่องได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในช่วงปี 2561-62 รัฐบาลจะยังใช้นโยบายขาดดุลงบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท/ปี เน้นการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

รมว.คลังกล่าวว่า ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะดูแลภาระหนี้ด้วย โดยคาดว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า หนี้สาธารณะจะขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดที่ 48% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 40.4% ต่อจีดีพี จากการที่รัฐทยอยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม ระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ไม่เกิน 60% ต่อจีดีพี คาดว่า การจัดทำงบประมาณสมดุล จะใช้เวลา 11 ปีข้างหน้า บนสมมติฐานที่เศรษฐกิจขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% รวมทั้งการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีการขยายฐานภาษี เพื่อดึงผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีเพิ่มขึ้น

api1

จากการพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้จึงเป็นที่มา "ไทยแลนด์ 4.0" โดยการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศอาจเติบโตมากกว่าระดับ 4-5% โดยกระทรวงการคลังเน้นการวางโครงสร้างดิจิตอลทางการเงิน จึงเกิด PromtPay และต่อมาก็มีระบบ QR Code รวมทั้งการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเป็นส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อได้อีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อให้ประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

โดยในระยะต่อไป กระทรวงการคลังจะดำเนินการเรื่อง Digital ID ที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปแสดงตนด้วยตัวเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมาย และกำลังจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติดำเนินการต่อไป

รมว.คลังกล่าวว่า นอกจากนั้น รัฐบาลมีโจทย์ที่จะให้ไทยเป็นประเทศที่พ้นความยากจน หรือเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งมีการทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีเป้าหมายว่าประเทศไทยจะพ้นความยากจน หากเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 4% คาดจะใช้เวลา 18 ปี แต่หากเศรษฐกิจไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% จะใช้เวลา 11 ปีที่จะพ้นความยากจน

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

"เราต้องผลักดันให้เศรษฐกิจโตสูงสุด เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นมาสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้สูง เราจะพ้นจากความยากจนได้เราต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง”

รมว.คลัง กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ ในการออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร พักชำระหนี้เงินต้นที่จะครบกำหนด 2-3 ปีนี้ โดยรัฐบาลจะช่วยเรื่องอัตราดอกเบี้ย 2-3% ให้สิทธิกับเกษตรกรที่สมัครใจ และเป็นลูกหนี้ที่ดีที่มีเพดานหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ 2-3 ล้านราย

“ มาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปภาคเกษตร เพื่อต้องการให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกร ส่วนรายละเอียดของโครงการนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จะรับไปดำเนินการทั้งหมด”

รมว.คลังกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ธนาคารโลก (World Bank) คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกราว 0.5% จากที่คาดการณ์ว่าปีนี้จะโต 3.5% แต่คาดว่าในส่วนของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบไม่มาก

e-book-1-503x62