“ฉัตรชัย”เคลียร์ อย.ปรามโฆษณาข้าว กข. เกินจริง

“ฉัตรชัย” เคลียร์ อย.ปรามโฆษณา ข้าว กข. เกินจริง ปรับใหม่ให้ใช้ถ้อยคำกลาง จากการที่ “ฐานเศรษฐกิจ” เปิดประเด็น “อย.เบรกโฆษณา ข้าว กข 43 ช่วยลดน้ำหนักระวังโดนคุก” ฉบับที่ 3,372 วันที่ 7-9 มิถุนายน 2561 นั้น

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ในฐานะรองประธาน คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาประชุมร่วมกันและหารือทางออก ทำความเข้าใจกัน โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ที่รับผิดชอบทางการตลาดปรับใช้ถ้อยคำใหม่ เพราะข้าว ไม่ใช่ยา ที่จะช่วย แต่คุณสมบัติของข้าวตัวนี้มีลักษณะพิเศษมีดัชนีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำงานร่วมกันแบบบูรณาการจะได้เข้าใจตรงกัน



สอดคล้องกับนางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า หลังจากวางจำหน่ายข้าว กข43 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 พบว่า ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงผู้บริโภค มีรายงานว่า ภายใน 2 อาทิตย์ สามารถขายข้าว กข 43 ได้ 12 ตัน ซึ่งเร็วมากสำหรับสินค้าที่เป็นตลาดเฉพาะ (niche market) แสดงว่ามีผู้สนใจมาก โดยเฉพาะกลุ่มรักสุขภาพ แต่ก็พบว่า ยังมีผู้นำเสนอโดยสื่อสารด้วยคำพูดที่ยังไม่ถูกต้อง เช่น ข้าวลดน้ำตาล ข้าวลดความอ้วน ซึ่งเป็นการสื่อสารที่จะทำให้ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดได้ เพราะข้าวไม่ใช่ยาลดความอ้วน ลดน้ำตาล หรือลดน้ำหนัก

“เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2561 ท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ในฐานะรองประธาน นบข. ได้มอบหมายให้มีการหารือระหว่างกรมการข้าว กระทรวงพาณิชย์ และ อย. เพื่อหาทางสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภคและให้ อย. เผยแพร่หลักการที่จะใช้ในการสื่อสารที่ถูกต้องและตัวอย่างถ้อยคำกลางๆ ที่เกษตรกรหรือผลประกอบการจะนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจ”

ข้าว กข43 เป็นข้าวขาว นุ่ม ดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนไปทางต่ำ (medium-to-low GI) ซึ่งดีต่อสุขภาพ เนื่องจากเมื่อข้าวเข้าสู่ร่างกาย แป้งในข้าวจะถูกย่อยแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเข้าสู่เลือดอย่างช้าๆ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ ข้าว กข43 เป็นอาหาร ไม่ใช่ยารักษาโรค ดังนั้น จึงไม่สามารถกล่าวอ้างสรรพคุณทางการรักษาโรคได้ไม่สามารถอ้างได้ว่า เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไต หรือไม่สามารถกล่าวอ้างสรรพคุณที่เกินจริง เช่น ให้น้ำตาลต่ำ/น้ำตาลน้อย สำหรับแนวทางในการเลือกใช้ถ้อยคำเพื่อสื่อสารข้าว กข43 อย. จะดำเนินการชี้แจงและจะเริ่มเข้มงวดกับการสื่อสารที่ไม่ถูกต้องในปลายปีนี้



ผลสำเร็จของการเชื่อมโยงในครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการข้าวที่เป็นรูปธรรมเห็นผลการเชื่อมโยงได้อย่างชัดเจนและเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ปัจจุบัน มีเกษตรกรจำนวนมากที่ให้ความสนใจปลูกข้าว กข43 แต่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ จึงขอเชิญชวนเกษตรกร ผู้ประกอบการ/โรงสี และผู้ประกอบการค้าปลีก แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข43 ในฤดูนาปี 2561/62

โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ตามที่อยู่และเบอร์โทรข้างล่างนี้ 1. เกษตรกรหรือสหกรณ์ ติดต่อกรมการข้าว โทร 1170 กด 4 หรือ กลุ่มพัฒนาสหกรณ์การเกษตร 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ โทร. 02-282-1226 หรือ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ และ 2. ผู้ประกอบการ/โรงสี และผู้ประกอบการค้าติดต่อ กองส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร 2 กรม การค้าภายใน โทร. 02-507-6179 โทรสาร 02-507-6181 หรือทาง E-mail : [email protected]



อนึ่ง โครงการข้าว กข43 ฤดูนาปรังที่ผ่านมาได้ผลตอบรับเป็นที่พอใจ กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เชื่อมโยงการผลิตและการตลาดข้าว กข43 ปริมาณ 1,120 ตันข้าวเปลือก หรือ 400 ตันข้าวสารอย่างครบวงจร โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 8 ราย ผู้ประกอบการแปรรูปข้าว จำนวน 7 ราย และผู้ประกอบการค้าโมเดิร์นเทรด จำนวน 4 ราย ได้แก่ เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เดอะมอลล์กรุ๊ป และเซ็นทรัลฟูดส์

เกษตรกรที่รวมกันเป็นแปลงใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการข้าว กข43จะได้รับเครื่องหมายรับรองเมล็ดพันธุ์แท้ รูปข้าวหลามตัดเขียวขาวจากกรมการข้าว และสามารถวางจำหน่าย ในห้างที่เข้าร่วมโครงการ “Q” ข้าวปลอดภัยดังกล่าวได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในราคา 60 บาท/กก. ข้าวดังกล่าวเป็นข้าวคุณภาพ “Q” (ปลอดภัยจากสารตกค้าง) ได้รับการรับรองจากกรมการข้าว กระทรวงเกษตรฯ