'ฉัตรชัย' นำคณะลุยพังงา! ติดตามงานกลุ่มจังหวัดใต้ฝั่งอันดามัน

16 มี.ค. 2561 | 04:40 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

รองนายกรัฐมนตรี ‘พล.อ. ฉัตรชัย’ ติดตามการปฏิบัติราชการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอันดามัน

วันที่ 14 มี.ค. 2561 เวลา 10.30 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไป จ.พังงา เพื่อประชุมติดตามการปฎิบัติราชการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอันดามัน (จ.ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ตรัง และระนอง) ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ศาลากลางจังหวัดพังงา โดยมี นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ผู้ว่าราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 7 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และเข้าร่วมประชุมฯ


197757-2

รองนายกรัฐมนตรีรับฟังการบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด ที่ได้รายงาน พร้อมนำเสนอขั้นตอนผลการดำเนินงานในประเด็นสำคัญของแต่ละจังหวัด ได้แก่

1.การดำเนินงานตามแผนงาน / โครงการของจังหวัด
2.การดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล อาทิ ความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ การขับเคลื่อนการพัฒนาตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนของจังหวัด
3.การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและสะอาด
4.ผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
5.ปัญหาสำคัญและแนวทางการแก้ไขปัญหาของจังหวัด
6.โครงการที่จังหวัดเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบประมาณจากงบกลางในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการแก่ผู้ว่าราชการทั้ง 5 จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ว่า การตรวจราชการในวันนี้ เป็นการมาเพื่อตรวจเยี่ยมจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเป็นครั้งแรก และที่กำหนดให้เป็น จ.พังงา เพราะเห็นว่าเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญ รวมทั้งเพื่อมารับทราบผลการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดในภาพรวม ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานตามแผนงาน / โครงการต่าง ๆ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของจังหวัดที่ดำเนินการไปแล้ว และมีแผนในการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการอย่างไร รวมทั้งข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนผลักดัน เพื่อให้มีการพัฒนาที่มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาภาคใต้ฝั่งอันดามัน ต่อการพัฒนาด้านการเกษตร อาทิ การส่งเสริมให้เษตรกรปลูกพืชผสมผสาน ปลูกพืชที่มีการควบคุมคุณภาพ การหาช่องทางการตลาดเพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้สูงขึ้นในระยะยาว การทำประมงอย่างยั่งยืนโดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาด้านการบริหารจัดการน้ำ การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนการดูแลสุขภาพอนามัย การลดความเลื่อมล้ำของสังคม  การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล และการขับเคลื่อนการพัฒนาตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า จากการรายงานของผู้ว่าราชการทั้ง 5 จังหวัด ทำให้ได้รับทราบประเด็นปัญหาของแต่ละพื้นที่ และวิธีการจัดการที่แตกต่างกันว่า แต่ละจังหวัดมีแผนงาน / โครงการที่สำคัญ มีแผนแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่มีผลกระทบกับประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง หรือผลกระทบในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ของประชาชน หากปล่อยปละละเลยอาจเกิดผลเสียหาย และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อเสนอแนะให้จังหวัดทั้ง 5 มีการดำเนินงานในรูปแบบต่าง ๆ  ดังนี้

1.โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในช่วงนี้ ว่า ขอให้ทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการบูรณาการในการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในทุกด้าน และค้นหาความต้องการที่แท้จริงของประชาชน เพื่อจัดทำโครงการฯ ตามกรอบการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ซึ่งทุกจังหวัดจะต้องขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมฯ ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม มีความโปร่งใส

2.จังหวัดต้องให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน หรือสร้างความร่วมมือในการทำงานของทุกภาคส่วน พร้อมแนวทางพัฒนาตามห่วงโซ่คุณค่าให้ครอบคลุม เพิ่มศักยภาพการผลิตให้เกษตรกร การลดต้นทุนการผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมัน การพัฒนาด้านการประมง การเพาะเลี้ยงชายฝั่งให้ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่า การพัฒนาเกษตรผสมผสาน การแปลรูปอาหารฮาลาล การพัฒนาโครงข่ายน้ำ และการบริการด้านจัดการท่องเที่ยวเพื่อลดปัญหาความแออัดและความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว ที่เน้นให้ชุมชนรักษาความสะอาดและความปลอดภัย

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ

3.การพัฒนาจังหวัด ต้องสอดคล้องกับการพัฒนาภาค มีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายของรัฐบาล
4.ให้จังหวัดเร่งจัดทำแผนงาน / โครงการเร่งด่วน ที่ขอรับการสนับสนุนประมาณในกรอบวงเงินที่รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สามารถอนุมัติได้  เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว ขอให้เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว ทำด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้  เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังท่าเทียบเรือบ้านสามช่องเหนือ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อพบปะและเยี่ยมเยียนประชาชนใน 3 ชุมชน (ชุมชนบ้านสามช่องเหนือ ชุมชนบ้านท่าดินแดง และชุมชนโกไคร)


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

จากนั้นได้เดินทางโดยเรือ ไปตรวจเยี่ยมกิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านสามช่องเหนือ ซึ่งมีการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติและเปลือกไม้ พร้อมเยี่ยมชมบ้านพักแบบโฮมเตย์ ธนาคารหอยแครงเพื่อการท่องเที่ยว และการดำเนินกิจกรรมแพเรือแคนูโดยชุมชน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้ซักถามด้วยความสนใจพร้อมกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เห็นความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายที่จัดกิจกรรมพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชน ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิม  สิ่งสำคัญ คือ จะต้องช่วยกันรักษาความสะอาดและความปลอดภัย เพื่อทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมทั้งรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เพราะถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า อีกทั้งขอให้ชุมชนได้มีความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ากับยุคสมัยด้วย

ตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า ขอให้ชุมชนได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ ‘ในหลวง รัชกาลที่ 9’ มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนชุมชนเพื่อให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ควบคู่กับการนำหลักการประชารัฐของรัฐบาลมาเป็นกระบวนการในการพัฒนาชุมชนจนเกิดความเข้มแข็ง และสามารถแก้ปัญหาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชน ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้การท่องเที่ยวในชุมชนมาเป็นเครื่องมือในการกระจายรายได้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และขจัดปัญหาความยากจนตามนโยบายรัฐบาลได้อย่างยั่งยืน


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ฉัตรชัย" โวลั่น! รัฐบาลทำงาน 3 ปี ผลงาน 12 เท่า http://www.thansettakij.com/content/267593
"ฉัตรชัย" เผย EU พอใจการแก้ไขปัญหาประมงของไทย http://www.thansettakij.com/content/263079


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว