“องอาจ” ชี้คดีรับจำนำข้าวเป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม

30 ก.ค. 2560 | 05:10 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

(30 ก.ค. 2560) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีรับจำนำข้าวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการตัดสินคดีในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ว่า เมื่อมีกำหนดวันตัดสินคดีที่แน่นอน ก็ปรากฎว่ามีความพยายามสร้างความเข้าใจผิดบิดเบือนประเด็น ก่อให้เกิดความสับสนอันก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคมโดยรวมได้ ทั้งๆ ที่เมื่อติดตามการดำเนินคดีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันก็ล้วนแล้วแต่เป็นการดำเนินการตามครรลองของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งเร่งรัดคดีเหมือนอย่างที่มีการสร้างความเข้าใจผิดบิดเบือนกันอย่างกว้างขวางอยู่ขณะนี้

การพิจารณาคดีรับจำนำข้าวเป็นการดำเนินการตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ดังนี้
1. เปิดโอกาสให้มีการต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรมอย่างครบถ้วน
2. การพิจาณาคดีใช้เวลาหลายปี เมื่อมีคำพิพากษาออกมาแล้ว จำเลยยังมีสิทธิอุทธรณ์ได้ ไม่ได้มีการรวบรัดเร่งรีบทำคดี
3. ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งอายัดทรัพย์สินและบัญชีเงินฝากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่รอการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด

การอายัดทรัพย์สินและบัญชีเงินฝากโดยกรมบังคับคดีเป็นการทำงานตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนของกฎหมาย เพราะรัฐในฐานะเป็นผู้เสียหายจากการรับจำนำข้าว อาจเกรงว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินและเงินในบัญชี รัฐจึงใช้อำนาจทางปกครองสั่งยึดอายัดทรัพย์ไว้ก่อนได้

4. การอายัดทรัพย์สินและบัญชีเงินฝากขณะนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำการตัดสินคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ตามที่มีความพยายามบิดเบือนกันแต่อย่างใด แต่เป็นการทำหน้าที่ตามปกติของหน่วยงานภาครัฐ

5. มีการบิดเบือนว่ารัฐอายัดทรัพย์สินและบัญชีเงินฝากเพื่อเอาเงินไปใช้บริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เป็นเพียงอายัดไว้เท่านั้น

นายองอาจกล่าวต่อไปว่าความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้คนในสังคม และอาจสะสมขยายตัวเป็นเงื่อนไขก่อให้เกิดปัญหากับบ้านเมืองในที่สุด