‘บิ๊กบี้’ เร่งส่งเสริมให้แรงงานไทยมีทักษะฝีมือ ลดแรงงานผิดกฏหมายในตปท.

20 มี.ค. 2560 | 14:31 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเร่งส่งเสริมให้แรงงานไทยมีความรู้ เพื่อให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ มีทักษะฝีมือที่สอดคล้องกับความต้องการของนายจ้างสร้างโอกาสที่ดีแก่แรงงานไทย นำไปสู่การมีรายได้ที่ดี ช่วยแก้ไขปัญหาการเดินทางไปทำงานแบบผิดกฎหมายให้ลดลง

พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นโยบายของกระทรวงแรงงานประจำปีพ.ศ. 2560 กำหนดให้เป็นปีแห่งการตรวจเยี่ยม การขับเคลื่อน การสร้างความรับรู้ และการประเมินผลความพึงพอใจเพื่อให้สามารถตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และวาระปฏิรูปเร่งด่วน ดังนั้น สำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศจำเป็นต้องมีข้อมูลและความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ และของกระทรวงแรงงาน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การเข้าสู่ยุค Thailand 4.0  ยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรทรัพยากรมนุษย์ 20 ปี ของกระทรวงแรงงาน ต้องเข้าใจว่า กระทรวงแรงงานจะอยู่ในส่วนใดของยุทธศาสตร์ชาติหรือในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นอกจากนี้จะต้องศึกษาข้อมูลของประเทศที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของนโยบายของประเทศในมุมกว้าง กฎหมายต่างๆ ในภาพรวม กฎหมายด้านแรงงาน ธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ในการประสานงานให้เกิดความสะดวกและราบรื่น

ทั้งนี้ โดยการรายงานสถานการณ์ ได้กำหนดให้ทำ case study เดือนละ 1 ครั้ง ที่เกี่ยวกับประเทศไทยและแรงงานไทย ว่ามีเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม และรายงานให้ผู้บริหารทราบ ในช่องทางที่รวดเร็วที่สุดโดยจะต้องดำเนินการทั้งในประเทศต้นทางและประเทศปลายทางเพื่อให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ มีทักษะฝีมือที่สอดคล้องกับความต้องการของนายจ้างส่งเสริมให้แรงงานไทยมีความรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรม ควรห่างไกลสุรา ยาเสพติด และมีความขยันตั้งใจทำงานมากยิ่งขึ้นและเมื่อกลับมาแล้วสามารถนำความรู้และฝีมือที่ได้มาใช้ในการพัฒนาประเทศได้ ซึ่งการสร้างโอกาสที่ดีแก่แรงงานไทย จะนำไปสู่การมีรายได้ที่ดี ช่วยแก้ไขปัญหาการเดินทางไปทำงานแบบผิดกฎหมายให้ลดลง เช่น แรงงานไทยในเกาหลี มีคนไทยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่อยู่แบบถูกต้องเพียง 1 ใน 3 ต้องมีการประเมินผลทั้งนโยบายรัฐบาลและนโยบายกระทรวงแรงงาน และความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน