“อนันตพร”ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พลังงานภาคตะวันออก

16 ธ.ค. 2559 | 10:20 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี เป็นการติดตามสถานการณ์พลังงานของภาคตะวันออก ซึ่งจากการพูดคุยกับพลังงานจังหวัดในกลุ่มภาคตะวันออกทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี และสระแก้ว เบื้องต้นไม่พบว่าประสบปัญหาอะไร แต่ก็ได้กำชับพลังงานจังหวัด และเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน ในพื้นที่   ให้มุ่งเน้นการทำงานอย่างบูรณาการตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวง ติดตามดูแลสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิดไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค เนื่องจากภาคตะวันออกเป็นภาคที่มีธุรกิจที่หลากหลาย มีทั้งภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว อัญมณี และการเกษตร อีกทั้งบางพื้นที่ยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอีกด้วย   ซึ่งเรียกได้ว่าพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยเช่นกัน

S__12247044 นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี ในการจัดหาน้ำในช่วงหน้าแล้ง การป้องกันน้ำเค็มจากทะเล และป้องกันน้ำท่วมในช่วงหน้าฝนให้กับเกษตรกรสวนผลไม้ในจังหวัดจันทบุรี ตลอดจนช่วยลดปัญหาเรื่องปริมาณกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอในพื้นที่ด้วย ที่สำคัญโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร เป็นโครงการที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในการเสด็จประกอบพิธีเปิด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2531 และพระราชทานนามว่า “เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร” ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 27 ล้านหน่วย สามารถช่วยเสริมกับระบบไฟฟ้าที่มีอยู่โดยเชื่อมโยงที่สถานีจ่ายไฟฟ้าจันทบุรี บ้านหนองหว้า อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี รวมถึงทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า    ได้ประมาณปีละ 6.95 ล้านลิตรต่อปี  และลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศได้ปีละ 5.98 ktoe (พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ) นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านการเกษตรกรรมในเขตจังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่ 35,000 ไร่

ทั้งนี้ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร ได้เดินเครื่องผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของ       การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2529 ในรูปแบบ Non-Firm ปัจจุบันได้ทำสัญญา    ซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2554 ซึ่งมีผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน  ในด้านกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 823 ล้านหน่วย มีการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบรวมอยู่ที่ 811 ล้านหน่วย  มีรายได้รวมเป็นเงินกว่า 1,500 ล้านบาท

ส่วนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงเสด็จประกอบพิธีเปิดเขื่อนและโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร เมื่อปี 2531 โดยทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับเรื่องการนำน้ำจากห้วยสะตอมายังเขื่อนคิรีธาร และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล เพื่อประโยชน์ในการเกษตรและการผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งทางสำนักงานพลังงานแห่งชาติในขณะนั้น หรือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานในปัจจุบัน ได้น้อมนำพระราชดำริมาศึกษาและจัดทำเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 28.16 ล้านหน่วย ช่วยลดการสูญเสียในระบบสายส่ง และส่งเสริมความมั่นคง   ในระบบสายส่งของประเทศ รวมถึงได้ส่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ 58,822 ไร่ ครอบคลุม 4 ตำบล ในอำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม คือ ตำบลพลวง ตำบลตะเคียนทอง (บางส่วน) อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลวังแซ้ม ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังได้กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีแนวทางที่จะพิจารณาให้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กในชุมชน จำนวน 25 แห่ง ขนาดกำลังผลิตรวม 2.97 เมกะวัตต์ เข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่อให้เป็นไปตามแผน AEDP ที่มีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็น 30% ในปี 2579 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในระดับนโยบายเพื่อหาข้อสรุปต่อไป

ในโอกาสเดียวกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังได้ไปเยี่ยมชมสวนผลไม้ของนางสมปอง พร้อมพวก เกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการไฟฟ้าคลองทุ่งเพล พร้อมพบปะกับตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำจาก  4 ตำบล คือ ตำบลพลวง ตำบลตะเคียนทอง (บางส่วน) อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลวังแซ้ม ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม อีกด้วย