กรมชลฯเริ่มเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักฯรองรับฝนระลอกใหม่

29 ก.ย. 2559 | 07:52 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กรมชลประทาน เริ่มทยอยเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อรองรับฝนตกหนักอีกระลอก เตือนพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

นายทองเปลว  กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน(29 ก.ย. 59) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 1,790 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแม่น้ำสะแกกรัง 167 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทาน ยังคงระบายน้ำตอนบนลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.)ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 59 ความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนตัวขึ้นไปบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด (29 ก.ย. 59) มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามที่กรมชลประทาน ได้ประเมินว่ามีโอกาสที่เขื่อนจะมีปริมาณน้ำเต็มอ่างฯได้ ในวันที่ 8 ต.ค. 59 นั้น จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำจากฝนที่จะตกลงมาอีก  โดยจะปรับเพิ่มการระบายจากเดิมวันละ 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน(29 ก.ย. 59)มีการระบายน้ำวันละ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะทยอยเพิ่มเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในวันนี้ ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลมารวมกับปริมาณน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณเหนือเขื่อนพระรามหก กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันนี้(29 ก.ย. 59) มีน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 433 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนพระรามหกลงมาไปจนถึงจุดบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1 – 1.50 เมตร

ส่วนในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง กรมชลประทาน ได้ใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยย่นระยะทางการไหลของน้ำจาก 18 กิโลเมตร เหลือเพียง 600 เมตร ทำให้สามารถระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยได้เร็วมากขึ้นในช่วงที่น้ำลง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 59 เป็นต้นมา มีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ไปแล้วทั้งสิ้น 82.19 ล้านลูกบาศก์เมตร

อนึ่ง กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสุพรรณบุรี รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปแล้ว