ศึกชิง“ปลัด มท.”ฝุ่นตลบ “คนใน”สกัด“เสือข้ามห้วย”

14 ก.ค. 2564 | 11:06 น.

ทีมสนับสนุน “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ได้ปฏิบัติการเตะตัดขา เคลื่อนไหวด้านการข่าว โดย “นักข่าวขาใหญ่” เพื่อไม่ให้เกิด “เสือข้ามห้วย” มาคว้าเก้าอี้ “ปลัดมหาดไทย” ไปครอง   

รอลุ้นกันทั้ง กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา จะมีการแต่งตั้ง “ปลัดมหาดไทยคนใหม่” แทน “ปลัดฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หรือไม่ 

 

แต่แล้วก็ยังไม่มีวาระเรื่องนี้เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.แต่อย่างใด

 

“ฝุ่นตลบ” ที่กระทรวงมหาดไทย ก็ยังต้อง “ตลบ” ต่อไปอีก 

 

ที่ว่า “ฝุ่นตลบ” ก็เพราะว่ายังมีคนที่ต้องการขึ้นนั่งเก้าอี้นี้ “วิ่งเต้น” อยู่ 


สำหรับตัวเต็งที่อยู่ในข่ายขึ้นสู่ตำแหน่ง “ปลัดมหาดไทย” ได้ มีอยู่ด้วยกัน 3 คน  

 

คนแรก เหมาะสุด และเป็นตัวเต็ง คือ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” อธิบดีกรมที่ดิน  เกิดเมื่อ 24 ก.ย.2505 “สิงห์ดำ” เพราะจบ รัฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง)  จุฬาฯ , รัฐศาสตรมหาบัณฑิต การปกครอง (เกียรตินิยมดีเยี่ยม)  จุฬาฯ 

 

เคยเป็น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รองปลัด มท. และผู้ว่าฯ หลายจังหวัด

 

ทำงานไว ฉลาด แต่เหลืออายุราชการแค่อีก  1 ปี

 

คนที่ 2  ลำดับอาวุโสถึง “สุทธิพงษ์  จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เกิด 3 ก.พ. 2507 “สิงห์ดำ”  จบ ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาฯ , ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต  จุฬาฯ และ ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

ตำแหน่งสำคัญเคยเป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รองปลัดด มท. , รองผู้ว่าฯ และ ผู้ว่าฯ หลายหลายจังหวัด

 

จะเกษียณอายุราชการในปี 2567 หรืออีก 3 ปี

 

คนที่ 3  “ธนาคม จงจิระ” อธิบดีกรมการปกครอง เกิดปลายปี 18 ธ.ค.2504 “สิงห์ดำ”  จบ ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ  รุ่นที่ 32,  ปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์


ตำแหน่งสำคัญเคยเป็น ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, รองปลัด มท., รองผู้ว่าฯ และ ผู้ว่าฯ หลายจังหวัด

 

จะเกษียณอายุราชการในปี  2565 หรือ ปีหน้า 


 

ปัญหาในการแต่งตั้ง “ปลัดมหาดไทย” ครั้งนี้ ก็คือ คนที่มีความสามารถสูงสุด เหมาะสุด คือ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” เพราะเคยผ่านงานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาหลายปี และผ่านผู้ว่าฯ หลายจังหวัด รู้เรื่องทุกอย่าง จน “มท.1- พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา”  และ “มท.2- นิพนธ์ บุญญามณี” อยากได้เป็นปลัด 

 

ขณะที่ “สุทธิพงษ์  จุลเจริญ” หรือ “ผู้ว่าฯ เก่ง” เป็นอธิบดีมา 2 กรม  ทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาก่อน ในการสนับสนุนนโยบาย  


โดยมีรายงานว่า “ผู้ว่าฯ เก่ง” จับจ้องเก้าอี้ “ปลัดมหาดไทย” และเข้าถึงผู้ใหญ่ “ผู้มากมารมี” บางคน ทั้งในฐานะส่วนตัว และต้องยอมรับแบ็คกราวด์ "ผู้ว่าฯ เก่ง" ไม่ธรรมดา ทั้งตัวเองและแรงสนับสนุนจากภรรยาที่เป็นนักธุรกิจไฟฟ้ารายใหญ่ และจะใหญ่ขึ้นไปอีกหากได้โครงการผลิดไฟฟ้าในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ทำกับรัฐวิสาหกิจบางแห่ง 

 

อย่างไรก็ตาม ในการแต่งตั้ง “ปลัดมหาดไทย” ถ้าตั้งคนที่เหลืออายุราชการเพียง 1 ปี ก็อาจทำให้การบริหารราชการไม่ต่อเนื่อง จะมีปัญหาได้  

 

ก็เลยมีตัวละครอีกตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมา โดย “บิ๊กฉิ่ง-ปลัดมหาดไทยคนปัจจุบัน” ก็เสนอว่า มี “ลูกหม้อ” และไปเติมโตที่กระทรวงอื่น คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นั่นคือ  “ปลัดตุ๋ม - จตุพร บุรุษพัฒน์” ปลัด ทส.ปัจจุบัน มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ถ้าจะสลับมานั่งปลัดมหาดไทย อายุราชการก็ยาวถึงปี 2568 เนื่องจาก ปลัดตุ๋ม เกิด 3 พ.ย.2507 

 

ถ้าได้คนนี้เมื่อไหร่ “มหาดไทย” จะเข็มแข้ง ในการวางกำลังคนของกระทรวงมหาดไทย เพื่อไม่ให้ผู้ว่าฯ มีปัญหาด้านการดูแลความมั่นคงระดับชาติ 

 

เมื่อ “ปลัดฉิ่ง” เสนอขึ้นมา “มท.1-อนุพงษ์” ก็รับลูก เพราะถูกกดดันอย่างหนักให้เลือก สุทธิพงษ์  จุลเจริญ  


ขณะนี้ก็มีกระแสว่า ทีมสนับสนุน สุทธิพงษ์ ได้ปฏิบัติการ “เตะตัดขา” เคลื่อนไหวด้านการข่าว โดย “นักข่าวขาใหญ่” เพื่อไม่ให้เกิด “เสือข้ามห้วย” จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มาคว้าเก้าอี้ “ปลัดมหาดไทย”   

 

อังคารหน้ามาลุ้นกันอีกทีว่า ในการประชุม ครม. จะมีวาระแต่งตั้ง “ปลัดมหาดไทย” บรรจุอยู่ในวาระหรือไม่ และใครจะ “คว้า” เก้าอี้นี้ไปครอง