จิตวิญญาณมนุษย์สำคัญกว่าเงิน

11 มิ.ย. 2568 | 20:30 น.

จิตวิญญาณมนุษย์สำคัญกว่าเงิน คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

การมีอยู่จริง ของพลังงาน ต่างๆที่เหนือธรรมชาติ ที่ใครหลายคน อาจจะปฏิเสธ ว่าไม่น่ามีอยู่จริง แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณได้มีโอกาส เดินทางไปในแดนภารตะ คุณจะได้เห็น คุณจะได้สัมผัส แล้วจะยังลึก เข้าถึงจิตวิญญาณของคุณ สิ่งที่ผมเอ่ยอยู่นี้ หมายถึง สถานที่นั้นเป็นดินแดน แห่งจิตวิญญาณ อย่างแท้จริง

คนไทยจำนวนไม่น้อย ที่ได้ยินข่าว พระสงฆ์องค์เณร ประพฤติไม่งาม ทำสิ่งผิด ตามพระธรรมวินัย มีความผิดทั้งคดีโลกคดีธรรม ต่างก็มีแนวคิดที่ว่า ศาสนาเสื่อมแล้ว แต่ถ้าคุณ ได้มีโอกาสเดินทางไป ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ คุณจะเข้าใจ และเปลี่ยนความคิดได้ใหม่ ว่าแท้จริง ศาสนายังไม่เสื่อม มีแต่บุคคลเท่านั้น ที่พึงทำตนเองให้เสื่อม

บางคนเมื่อได้ยินชื่อ ว่าประเทศอินเดีย ต่างก็ส่ายหน้าไม่อยากไป แต่ถ้าเผลอ ได้ไปเมื่อไหร่ ร้อยละ 90 ร้องอยากจะกลับไปอีกครั้งหนึ่ง เพราะคุณได้ไปสัมผัส จิตวิญญาณของตัวคุณเอง อย่างแท้จริง โดยพึงอาศัย พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ​ สังฆานุภาพ​ เป็นสรณะในจิตใจ เพราะในดินแดน แห่งจิตวิญญาณนั้น คุณจะได้เห็นภาพ ด้วยสายตาของคุณเอง ทั้งนรกและสวรรค์ ที่อยู่ร่วมกัน ให้คุณได้เรียนรู้ จิตใจของคุณ จะเริ่มโล่งโปร่งเบา เห็นทุกข์ได้ง่าย ปล่อยวางได้เร็ว อย่างอัศจรรย์

หลายคนตื่นเช้า ไปถึง พระเจดีย์มหาโพธิ์ เห็นพระสงฆ์ ยืนถือบาตรอยู่ ต่างก็หยิบปัจจัย น้ำ นำใส่บาตรนั้น ด้วยความปีติสุข และมีความคิดที่ว่า มีความสุขเหลือเกิน ที่ได้สร้างทานบารมี ในดินแดนพุทธภูมิ ความสุขปีตินี้เกิดอยู่เนิ่นนาน

แต่สำหรับใครที่เคยอยู่อินเดียนานๆ เขาจะรู้ว่า พระเหล่านั้น เป็นแค่เพียงขอทานเป็นพระปลอม ที่มาแต่งกายนุ่งห่มเป็นพระ แล้วรอบิณฑบาต จากนักท่องเที่ยว ถ้าคุณไม่รู้ คุณก็จะไม่เกิดความคิด ไปในเชิงลบ และเป็นอคติ​อกุศล ที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เพราะเขาต้องการ ให้คุณมีความสุขและอิ่มบุญตามเจตนาของคุณ​

การทำบุญกับพระสงฆ์องค์เณรในเมืองไทยก็เช่นเดียวกัน ทำแล้วก็คือทำ เราได้สร้างทานบารมีแล้ว ส่วนทานนั้น พระสงฆ์ท่านจะทำอย่างไร เป็นสิทธิ์ของท่าน เป็นเรื่องของท่าน เราไม่ควรเข้าไปรู้เพราะบางครั้งรู้แล้ว จะทำให้ใจเศร้าหมอง มีจิตที่เป็นอกุศล ผลอานิสงส์แห่งทานนั้น ก็จะเบาบางลดน้อยลง

คงไม่ต่างกับนิทานเรื่องหนึ่ง พระราชา ให้โอรสไปหาพระอรหันต์มา ให้ครบ 500​ รูป เพื่อจะทำบุญใส่บาตร ครั้นโอรส หาพระอรหันต์มาได้เพียง 10 รูปเท่านั้นจากนั้นจึง ออกอุบาย ให้คนธรรมดา แต่งกายเป็นพระภิกษุ เข้ามาบิณฑบาต ครั้นถึงตอนเช้า พระราชาใส่บาตร พระทั้ง 500 รูป มีความสุขปีติเป็นยิ่งนัก​เพราะได้ใส่บาตรพระอรหันต์ตั้ง500รูป​ พระราชามีชีวิตในธรรมยาวนานจนอีกหลายปีถึงสวรรคต

เมื่อพระโอรส ขึ้นครอง เป็นพระราชา วันหนึ่งก็ คิดอยากใส่บาตรพระอรหันต์ ให้ครบ 500 รูปบ้าง ก็ให้อำมาตย์ ที่ไว้ใจได้ ไปนิมนต์พระอรหันต์ 500 รูป​ เมื่อนิมนต์พระ อรหันต์ได้ครบ 500 รูป​ เช้าพระราชา เสด็จมาใส่บาตร แต่ทุกครั้งที่ใส่บาตรจะมองหน้าพระ ทุกรูปเสมอ พร้อมกับในใจ แอบคิดอยู่ว่า

พระจริงพระปลอมวะนี่ พระอรหันต์ปลอมไหมนี่

ที่คิดเช่นนี้ ก็เพราะว่าพระองค์เองเคยทำ กับพระบิดาของพระองค์เองไว้​ เลยหวั่นเกรงว่าอำมาตย์จะทำกับตนเอง จึงคิดเป็นอกุศลอยู่ตลอดเวลา ครั้นอีกหลายสิบปี​เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตในการต่อไป มีการเล่าว่า พระองค์ได้ ตกไปในอบายภูมิ เพราะทุกขณะจิต ที่ใส่บาตร กับพระอรหันต์แท้ ทุกรูปนั้น ทรงมีความคิด เป็นอกุศล เกิดขึ้นในใจ

นิทานชาดกเรื่องนี้ มีคำสรุปสั้นๆว่า

ทำบุญกับพระปลอมขึ้นสวรรค์ ทำบุญกับพระอรหันต์ตกนรก

ด้วยมูลเหตุที่กล่าวมา

ดังนั้น การทำบุญกับพระภิกษุ เมื่อตั้งจิตคิดจะทำแล้ว ไม่ควรสงสัย ไม่ควรตั้งคำถาม ใดๆทั้งสิ้น ทานที่ปล่อยจากมือเราแล้ว ต้องปล่อยออกจากใจเราด้วย แล้วบุญทานนั้น จะมีผลอานิสงส์ อย่างสมบูรณ์ให้กับจิตวิญญาณของเรา

ความสุขทั้งหลายบนโลกใบนี้ไม่มีความสุขใดที่จะอิ่มเอมเท่ากับสุขในจิตวิญญาณ ผู้ที่มีปัญญา จะมีความรู้ ว่าการใช้ชีวิตของตนนั้น จะวางจิตใจไว้อย่างไร ให้มีความทุกข์น้อยมากที่สุด ในกรอบคำสอนธรรมะ ของพระพุทธเจ้า

จิตวิญญาณของมนุษย์จึงมากด้วยคุณค่า มากกว่าเงินทอง มากกว่าวัตถุใดๆทั้งสิ้น ถ้าเรา ได้เรียนรู้ศึกษา เรื่องจิตวิญญาณ กันอย่างแท้จริง ชีวิตของเราท่านทั้งหลาย จะมีความทุกข์น้อยลง และทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุน พระภิกษุในพระพุทธศาสนา ได้อย่างถูกต้อง

เพราะพระพุทธศาสนาไม่เคยเสื่อมอย่างแท้จริง