ALL หนังชีวิต...ต้องดูกันยาวๆ

09 ก.พ. 2566 | 21:30 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

*** การอายัดทรัพย์ของผู้เกี่ยวข้องกับ MORE จำนวน 34 รายการ มูลค่า 5,376 ล้านบาท นับจากวันที่ 21 พ.ย.2565 จะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 18 ก.พ.2566 อาจถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดหลังจากที่ ปปง. ได้มีมติให้อายัดทรัพย์สินต่อ โดยจะส่งเรื่องไปยังอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้อายัดทรัพย์จำนวนนี้ต่อไปแบบไม่มีกำหนดระยะเวลา  

การขยายเวลาการอายัดทรัพย์ของ ปปง. อาจสร้างผลกระทบตามมาหลายเรื่อง อย่างแรกคือ มีโอกาสที่บริษัทหลักทรัพย์บางแห่ง อาจจะเจอปัญหาการขาดสภาพคล่อง แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับ บล.เอเชีย เวลท์ จนทำให้ ก.ล.ต. ระงับการทำธุรกรรมจนถึงอาจเรียกคืนใบอนุญาต  

ส่วนเรื่องที่สองคือ อาจเกิดการรวมกลุ่มร้องเรียนว่า ปปง. ไม่มีสิทธิ์ที่จะขยายเวลาไปแบบไม่มีกำหนดเช่นนี้ เนื่องจากการอายัดทรัพย์สินจากการขายหุ้น MORE ส่งผลกระทบไปยังกลุ่มคนที่ซื้อขายหุ้น MORE โดยสุจริตด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ยังไม่รวมผลกระทบที่เกิดกับราคาหุ้น จนทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นของ MORE ยังคงติดดอยจนออกไม่ได้ ทั้งที่นักลงทุนเหล่านี้ไม่มีส่วนรู้เห็น หรือ เกี่ยวข้องใดกับกลุ่มผู้กระทำผิดแต่กลับต้องมาติดร่างแหความล่าช้า ของการสืบคดีที่ไม่มีกำหนดเวลาและไม่มีจุดจบเช่นนี้ 

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ MORE เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น และไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก แต่ขณะเดียวกันเจ๊เมาธ์ก็มองว่า เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วผู้ที่รับผิดชอบ ก็ควรจะต้องเร่งหาวิธีการป้องกันแก้ไข และรีบทำให้จบไม่ใช่ปล่อยไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมายจนส่งผลกระทบในวงกว้างแบบที่เป็นอยู่เช่นนี้ ไม่เช่นนั้นท่านอาจจะถูกหาว่าทำงานกันแบบ “เช้าชาม...เย็นชาม” หรือไม่ก็อาจถูกกล่าวหาว่าที่ “ภาษีหุ้น” หละร้องจะเก็บจัง แต่พอเกิดปัญหาที่ต้องแก้ไขกับทำอะไรไม่เป็นหรือทำอะไรไม่ได้ แบบนี้เขาจะหาว่า.....เสียข้าวสุก ก็เป็นได้เจ้าค่ะ
 

*** ราคาหุ้นของ DELTA ปรับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ ที่ราคา 996 บาท หลังการปรับหน่วยการซื้อขาย (บอร์ดล็อต) จากเดิม 100 หุ้น มาเป็น 50 หุ้น ทำให้การเข้าถึงหุ้นตัวนี้ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเท่าตัว ขณะที่การเก็งกำไรก็ทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้นักวิเคราะห์จากทุกสำนัก ต่างมองตรงกันว่า ตอนนี้ DELTA เป็นหุ้นที่ไม่มีเรื่องของมุมมองที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานเข้ามาปน 

ขณะเดียวกัน เรื่องแบบนี้ก็สอดรับกับมุมมองของเจ๊เมาธ์ ที่มองว่าในตอนนี้ DELTA แทบจะไม่มีอะไรที่เป็นความลับให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เรื่องการเข้าไปอยู่ในดัชนี SET50 SET100 ก็จบไปแล้ว ส่วนการแตกราคาพาร์ ก็มีความชัดเจนจากผู้บริหารว่า ยังไม่มีแนวคิดในเรื่องนี้ ดังนั้น จึงหมายความว่าในตอนนี้ DELTA แทบจะไม่มีอะไรเหลือให้นักลงทุนได้ลุ้นอีกแล้ว สำหรับนักลงทุนไทยบางส่วนการมีลุ้น หรือ ไม่มีลุ้นที่ว่านี้ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนค่อนข้างมาก และเมื่อไม่มีอะไรเหลือให้ลุ้น ก็เป็นได้ที่ราคาหุ้นของ DELTA อาจจะได้รับผลกระทบในเร็ววันนี้ก็เป็นได้...ของแบบนี้ใครจะรู้

*** บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB ถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นไอพีโอที่น่าสนใจ อย่างแรกก็คือ การเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจสตาร์ทอัพเกี่ยวกับการขาย E-Book ที่มีทั้งแพลตฟอร์มในการอ่าน การขาย รวมไปถึงขายอุกรณ์ในการอ่าน ส่วนอย่างที่สองคือ การเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ถือได้ว่า ทั้งรายได้ และกำไร อยู่ในระดับที่ดีมาก อย่างที่สามก็คือ การที่ MEB เป็นบริษัทที่อยู่ในเครือของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “CRC” ผ่านทาง บริษัท บีทูเอส จำกัด ซึ่งหมายความว่า MEB เป็นอีกบริษัทที่มีแบ็คอัพอันทรงพลังดูแลอยู่  
 

ส่วนอย่างสุดท้ายก็เป็นเรื่องของ การมี บล.บัวหลวง ทำที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายร่วมกับ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และ บล.โนมูระ พัฒนสิน ซึ่งหากจำกันได้ก็จะรู้ว่า มีหุ้นไอพีโอหลายตัวที่ผ่านมือของ บล.บัวหลวง กลายเป็นหุ้นไอพีโอที่ทำราคาได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้ถ้ายังไม่เข้าตลาด หรือ ยังไม่เกิดการซื้อขายกันขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะดีจริงหรือไม่  

เอาเป็นว่า “วันวาเลนไทน์” ที่ 14 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นวันแรกของการซื้อขายหุ้น MEB ในตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าชื่อของ บล.บัวหลวง คือของจริงหรือไม่นั่นเอง 

*** หลังจากการผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ในวันที่ 3 ม.ค. 66 ด้วยจำนวนเงินเพียงแค่ 10 กว่าล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นของ ALL ร่วงลงอย่างหนัก แต่เมื่อทางผู้บริหาร ALL ได้ตัดสินใจแก้เกมด้วยการขายสินทรัพย์บางส่วน เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ก็ทำให้ในเวลาเพียงแค่สัปดาห์กว่าๆ ราคาหุ้นของ ALL แสดงการตอบรับ...บวกสวนขึ้นมาได้เกือบ 100% จากราคาต่ำสุดที่ 0.19 บาท 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองกลับไปที่การแก้เกมในแบบฮาร์ตคอร์ด้วยการ “ตัดแขนเพื่อรักษาชีวิต” ในแบบนี้ มันก็ทำให้เจ๊เมาธ์อดคิดไม่ได้ว่า แล้วในอนาคตเมื่อแหล่งที่มาของรายได้หายไป มันก็ไม่ต่างจากคนไม่มีแขนที่จะทำมาหากินอะไรก็ยุ่งยากไปทุกอย่าง ขณะที่ในเวลาอีกไม่นานก็ถึงรอบที่จะต้องจ่ายทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้เงินกู้อีกหลายราย แล้ว ALL จะไปหาเงินมาจากไหนกัน เอาเป็นว่าหนังชีวิตยังไม่จบแค่นี้แน่นอน....หนังเรื่องนี้น่าจะยาวจนอาจถึงขึ้นจบเกมกันไปข้างใดข้างหนึ่งโน้นเลยค่ะ

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,861 วันที่ 12 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566