หลังจากที่รอมานานเกือบ 10 ปี ในที่สุดศาลล้มละลายกลาง ก็มีคำสั่งให้ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เจ้าของเดิมโรงแรมดาราเทวี เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการของ IFEC โดยแต่งตั้ง IFEC เป็นผู้ทำแผน ในวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย “มหากาพย์ IFEC” เริ่มมีปัญหาในช่วงต้นเดือน ก.ย. 2559 หลังจาก สิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารและกรรมการบริษัท เกิดความขัดแย้งภายในกับ “หมอวิชัย” หรือ นพ.วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ จน สิทธิชัย ต้องขายหุ้นออกมาจำนวนมาก กดดันราคาหุ้น IFEC ร่วงหนักก่อนที่ สิทธิชัย จะลาออก
ตามมาด้วยปัญหาการดำเนินธุรกิจ และสภาพคล่องของ IFEC จนบานปลายกระทบถึงปัญหาการดำเนินธุรกิจ รวมถึงปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในตั๋วแลกเงินระยะสั้น (ตั๋วบี/อี) ต่อ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มูลค่าประมาณ 100 ล้าน ตามมาด้วยช่วงต้นปี 2560 IFEC ก็เบี้ยวหนี้ตั๋วบี/อีราว 200 ล้านบาท ของ บลจ.โซลาริส อีกครั้ง ก่อนที่ปัญหาของ IFEC จะปะทุขึ้นอีกครั้งในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 60 ซึ่งได้ปรากฏชื่อของ “ทวิช เตชะนาวากุล” โผล่ขึ้นมาเสนอชื่อ “ชุดกรรมการ” ขึ้นมาสู้กับ “ชุดกรรมการ” ของหมอวิชัย ก่อนที่จะต่อสู้กันอีกหลายยกจน “ทวิช” ก็เป็นฝ่ายชนะในที่สุด
ขณะที่ในเรื่องของโรงแรมดาราเทวี เริ่มมีปัญหามาจากช่วงปลายปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ IFEC ได้เข้ามาซื้อกิจการโรงแรมดาราเทวี 2,520 ล้านบาท เพื่อจะนำมาต่อยอดสร้างผลตอบแทนได้ดีในอนาคต ก่อนที่ในที่สุด เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2563 โรงแรมดาราเทวี ได้ประกาศปิดกิจการอย่างเป็นทางการ เลิกจ้างพนักงานทุกคน และในวันที่ 10 ม.ค. 2564 สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศประมูลขายทอดตลาดทรัพย์สินโรงแรม “ดาราเทวี” ก่อนที่จะจบการประมูลครั้งล่าสุดไปที่ราคา 3,594.62 ล้านบาท โดยมี I Thermal ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เป็นผู้ชนะการประมูล ก่อนที่ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นอีกฝั่งของ IFEC นำโดย เยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ในฐานะผู้ถือหุ้นอีกกลุ่มของ IFEC จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวคัดค้าน โดยมองว่า การเข้าประมูลโรงแรมดาราเทวี ของ I Thermal มีกระบวนการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้อง
ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้ IFEC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนกรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ IFEC ยังคงมีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนอีก 1 เหตุ จากกรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ (จะครบกำหนดเวลาการแก้ไขเหตุเพิกถอนในวันที่ 18 เม.ย.2567) ขณะที่ผลการดำเนินงาน บริษัทฯ ยังคงประสบปัญหาขาดทุนมานาน ล่าสุดงวด 9 เดือนปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 565 ล้าน
เจ๊เมาธ์ก็หวังว่ามหากาพย์ IFEC จะจบลงได้จริงและแผนฟื้นฟูกิจการจะเดินหน้าไปได้ดี เพราะผู้ถือหุ้นจำนวน 27,000 คน ที่รอคอยมานานเริ่มเห็นแสงสว่างแห่งความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว ไหนๆ ก็รอมานานขนาดนี้แล้วอย่าทำให้ผิดหวังเลยเจ้าค่ะ
จนแล้วจนรอดก็ยังไม่รู้ว่าแผนฟื้นฟูกิจการของ JKN จะเดินไปในทิศทางใด เพราะในวันที่ 29 ม.ค. 2567 ซึ่งเป็นวันที่ศาลล้มละลายกลางมีกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ แต่เมื่อถึงเวลาขึ้นมาจริงๆ กฤติพัฒน์ ศรีเทพเอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของ JKN ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเบิกความเกี่ยวกับทุกประเด็นตามคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ก็มาเกิดมีอาการป่วย จนไม่สามารถเดินทางมาเบิกความต่อศาลได้ และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้ศาลฯ เลื่อนการนัดไต่สวนคำร้องไปเป็นวันที่ 5, 6 และ 7 มี.ค. 2567 โดยกำชับให้ทนายผู้ร้องขอเตรียมพยานทุกปากมาพร้อมไต่สวนในวันที่ 5 มี.ค. 2567
โดยส่วนพยานฝ่ายผู้คัดค้านให้เตรียมมาให้พร้อมไต่สวนในวันที่ 6 มี.ค.2567 ทั้งนี้ศาลฯ ได้กำชับคู่ความว่า ศาลจะไม่อนุญาตเลื่อนคดีอีก ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ซึ่งตอนนี้ทาง JKN มีเวลาอยู่อีกเดือนกว่าๆ ที่จะต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุดก่อนที่ศาลฯ จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการออกมา ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเจรจากับเจ้าหนี้ทั้งหมดเพื่อให้ยอมรับแผนฟื้นฟูที่ JKN จะเป็นผู้จัดการแผน รวมไปถึงแผนสำรองในการหาเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้และดอกเบี้ยที่คงค้าง กรณีที่ไม่สามารถเดินหน้าเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการได้
เอาเป็นว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้...จังหวะนี้ก็คงจะทำได้แค่ให้กำลังใจและรอต่อไปก็เท่านั้นเองค่ะ
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,962 วันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567