ลุ้นรัฐบาลรักษาการ ลดค่าไฟฟ้าทิ้งทวน

12 ก.ค. 2566 | 23:20 น.

บทบรรณาธิการ ลุ้นรัฐบาลรักษาการ ลดค่าไฟฟ้าทิ้งทวน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3904

เริ่มมีข่าวดีมาบ้างกับการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ เป็นต้นไป หลัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เห็นชอบในการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 และให้สำนักงานกกพ.ไปเปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงวันที่ 7-12 กรกฎาคม 2566 ก่อนที่จะสรุปและประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่าผลการเปิดรับฟังความเห็นของเสียงส่วนใหญ่จะเลือกแนวทางการปรับขึ้นค่าเอฟที (Ft) ต่ำสุดจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณ 28.58 สตางค์ต่อหน่วย และทยอยชำระเงินให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกภาระค่าเอฟที 38.31 สตางค์ต่อหน่วย จากการกู้มาเพื่อตรึงค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกันยายน 2564-เมษายน 2566 ราว 135,297 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่าเอฟทีราว 249.81 สตางค์ต่อหน่วย และแบ่งชำระเป็น 5 งวดๆ ละ 23,428 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สิ้นเดือนธันวาคม 2566 กฟผ.จะมีภาระหนี้คงเหลือราว 111,869 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับลดลงเป็น 4.45 บาทต่อหน่วย จากรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย

กกพ.ให้ความเห็นว่า ค่าไฟฟ้าที่ปรับลดลงนี้ คำนวณจากค่าเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลงเป็นหลัก โดยอ้างอิงราคาก๊าซธรรมชาติทุกแหล่งอยู่ที่ 346 บาทต่อล้านบีทียู ลดลงจากงวดก่อนอยู่ที่ 399 บาทต่อล้านบีทียู ราคานำเข้าแอลเอ็นจีในรูปแบบ LNG Spot ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 14.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จากงวดก่อนอยู่ที่ 19.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ประกอบกับการผลิตก๊าซฯในอ่าวไทยจากแหล่งเอราวัณได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ช่วยลดการนำเข้าแอลเอ็นจีขณะที่เงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ 34.24 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่มุมมองของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เห็นว่าค่าไฟฟ้าในงวดกันยายน-ธันวาคม 2566 มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้อีกมาสู่ที่ระดับ 4.25 บาทต่อหน่วยได้ และเตรียมที่จะนำเรื่องเสนอรัฐบาลรักษาการ เพื่อให้พิจารณาปรับค่าเอฟทีลงมาอีก โดยเฉพาะการให้ยืดหนี้ที่กฟผ.ต้องแบกรับภาระออกไปเป็น 6 งวด จากที่กฟผ.เสนอมา 5 งวด เพื่อให้ค่าเอฟทีลดลงได้อีก

ดังนั้น คงต้องจับตาดูกันว่าค่าไฟฟ้าในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 จะสามารถลดลงจากที่เปิดรับฟังความคิดเห็นได้หรือไม่ เพราะการจะปรับลดค่าเอฟทีลงอีกอยู่เหนืออำนาจหน้าที่ของกกพ.ที่จะไปดำเนินการได้ นอกจากจะมีนโยบายมาจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หรือผู้ที่มีอำนาจกำกับกระทรวงพลังงานจะไปบีบให้กฟผ.ให้ยืดหนี้แบกรับภาระค่าเอฟทีต่อไป บนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน และยังมีความสามารถในการขยายการลงทุนเพื่อรักษาความมั่นคงด้านไฟฟ้าและการนำเงินส่งกระทรวงการคลัง

รวมถึงการนำนโยบายให้มีการปรับราคาก๊าซธรรมชาติที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โดยให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติใช้ราคา Pool Gas ซึ่งเป็นราคารวมก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่นๆด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ราคา Pool Gas โดยรวมลดลง อีกทั้ง การนำมาตรการจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยหลังโรงแยกก๊าซธรรมชาติ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเป็นลำดับแรก

รวมทั้งการขอความร่วมมือจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ให้พิจารณาจัดสรรรายได้ จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน มาช่วยสนับสนุนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า เป็นต้น