เปี้ยงกี่ ยอดกับข้าวจีนแคะ

จีนแคะไม่ใช่จีนแคระ ถ้ามีรอเรืออันนั้นก็คือคนแคระซึ่งโดยทั่วไป จะใช้ชีวิตอยู่กับสโนว์ไวท์ในนิทาน จีนแคะเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์สำคัญของจีนในไทย เรียกกันจริงจังว่า ฮากกา-แปลว่าผู้มาเยือน

กับข้าวจีนแคะ มีจุดเด่นอยู่ที่ข้าวหมากสีแดง ซึ่งพ่อครัวแคะจะหมักข้าวเหนียวกับส่า ได้ข้าวหมากรสหอมหวานเติมข้าวแดงลงไป ทิ้งนานไปจะได้น้ำเมรัยรสอร่อยหอมฟุ้งเอาไปนึ่งปลา ส่วนกากข้าวเอามาผัดเส้นหมี่ ที่ร้าน ‘เปี้ยงกี่โภชนา’ ป้อมปราบ เปนยอดฝีมือทำกับข้าวจีนแคะ วันนี้ได้ปลาชิ้นทั้งเก๋าและกะพงติดหนัง เถ้าชิ้วเปี้ยงกี่ เอามานึ่งกันสดๆแต่งรสด้วยเหล้าหมักที่ว่า ใส่ขิงสดซอย สุ่มใบขึ้นช่าย ได้รสหอมหวาน เปรี้ยวชื่นสุมร้อนขิง เปรี้ยวอย่างกับใส่บ๊วยทั้งที่จริงไม่มีบ๊วยผสมเลย!

นอกจากข้าวหมากแล้วแคะขึ้นชื่อด้านเต้าหู้ นำมาใส่หมูสับที่ปรุงมาพิเศษนวลเนียน เอานึ่งก็ได้หรือเอาห่อฟองเต้าหู้ไปทอดก็ได้ รับประทานกับซอสพริกสูตรพิเศษของทางร้านใช้พริกเผ็ดศรีสะเกษ เสริมด้วยน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย ประสานรสกันดีเปนปี่ขลุ่ย

ต่อด้วยต้มจืดลูกชิ้นปลากราย ใส่ยอดผักกาดขาว ลูกชิ้นลูกโต ตีเองจนเบาหวิวเติมรสด้วยปลาหมึกแห้ง หอมเค็มคม ซดเบาๆคล่องคอ ไก่กำดัด เชือดมาใหม่ๆ นึ่งกับเหล้าเช่นกัน โดยคุมจังหวะไฟไม่ให้ลนลาน ไก่สดจริงๆหนังดีมาก เคี้ยวหนุบหนับอร่อยปาก จานนี้ที่ร้านไม่มีข้าวมันให้ แต่ใครจะเอามาก็ไม่คิดค่าเปิดจานเปิดขวดแต่อย่างใด เอาลูกชิ้นหัวไชเท้าใส่กุ้งแห้งนึ่งจิ้มซีอิ๊วดำ มากินด้วยกันกับไก่สับก็เพลินปากดีไม่น้อย

เส้นหมี่ผัดข้าวหมากใส่เครื่อง ปลาหมึกแห้งและไก่ โรยต้นหอมสับมาเขียวๆ กินกับเคาหยก หมูสามชั้นทอดนึ่งซีอิ๊วดำ เปื่อยนุ่มละลายในปากรับประทานสองแบบคือแบบนึ่งเห็ดหอมกับแบบนึ่งผักกาดดองแห้ง

ของไฮไลท์คือก้ามปูนึ่งซึ่งจะต้องสั่งกันล่วงหน้ารวมถึงปลาตะลุมพุกด้วย นอกจากนี้ยังมี ไก่ดำตุ๋น มีปลิงทะเล แล้วก็กระเพาะหมูทำมาอย่างดีเลย ผัดผักกาดดองสดขึ้นช่ายหั่นเคี้ยวหนุบรสสุภาพ

หากมายามค่ำคืนอาจเจอบรรดาจอมยุทธ์ในยุทธจักรตั้งโต๊ะกินของดีกันขวักไขว่ ถ้าเลี่ยงได้ควรมากลางวัน บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง