สูน : วิชาน้ำจิ้มคู่

03 ก.ย. 2565 | 01:00 น.

คอลัมน์ อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

การณ์อันเถ้าชิ้วเจ้าของร้านจะวางมาตรฐานบริการน้ำจิ้มคู่แก่นักชิมผู้หิวโหยนั้น อันดับแรกต้องเปน ร้านใจใหญ่และ อันดับสองจะต้องเปนร้านฝีมือเก่า ก็คนเราลงทุนทำน้ำจิ้มเอง อย่างร้าน ‘แดง แม่กลอง’ นั่น ท่านเล่าให้ฟังว่าค่าน้ำจิ้มอย่างเดียววันๆหนึ่งต้นทุนทำร่วมสองหมื่น! ใจจะไม่ใหญ่ได้ไงกัน
 

ลงคนเราใดๆไปเข้าโต๊ะ แล้วต้องเอ่ยปากขอน้ำจิ้มกลางวงข้าวแล้วไซร้ มันจะหมายว่าแล้วทางร้านไม่รู้รึไงว่าอะไรต้องกินกับอะไรน่ะ_ฮึ?_แล้วถ้าลงไม่รู้ จะมาเปิดร้าน เขาเรียกร้านมือสมัครเล่น เปิดได้อยู่ไม่กี่มากน้อยหรอก_เจ๊ง  

ที่ธัญบุรีไปทางคลองเจ็ด ดร.เสือ วงศ์บัณฑิต ท่านเปนเครือบัณฑิตแท้ กะเก็งความมาดหมายในการหาของใส่ท้องฝ่ายหิวโหยและเรื่องมากได้เปนแม่นมั่น
 

กรุณานำพาไป ‘ร้านสูน’ ครัวจีนลูกทุ่งฝีมือเก่าสั่งกับข้าวชายทุ่งรวงทอง ไก่บ้านต้มสับชิ้น, ห่อหมกปลาช่อนทั้งพุงและไข่, ไข่เป็ดเจียวน้ำมันหมู, ดอกขจรตีกระเทียม ยังไม่ทันวางรายการสั่งคนเดินโต๊ะก็วางน้ำจิ้มคู่เอาไว้ให้แล้ว ถ้วยหนึ่งรสเค็ม ถ้วยหนึ่งรสหวาน ดูแค่วิถีกับวิธีวางน้ำจิ้ม ก็รู้ทันทีว่าของเขาต้องอร่อย

ร้านนี้มีชื่อเรื่องการย่างหมูแดงได้แห้งหอมพอเหมาะพอเจาะ เปนความแห้งของมันหมูมิใช่ความผากของเนื้อใน ท่านจะจิ้มกับอะไรในถ้วยคู่นั้นสมควรจะได้แวะไปทดลองของเขา
 

ส่วนอีกจานหนึ่งที่น่านิยมเมื่อประสมกับเมรัยฝ่ายเยอรมันที่ชื่อว่าเบียร์ ต้องขอแนะนำ ขาหมูยัดไส้สมัยนี้มันไม่ใช่จะหากินกันง่ายๆ เขาต้องเลาะเอาเนื้อในขาหมูออกมาอย่าให้หนังขาด ปรุงรสข้างนอกใส่เอ็นใส่มันแล้วเอายัดกลับเข้าไปใหม่แล้วจึงค่อยได้ไปทำรมควัน ยามจะกินก็ผ่านเปนแว่นๆกินแบบเย็น


 

คนญวนมักทำเก่ง แถวหนองคายชายโขงเลาะไปยังนครพนมสกลนครสมัยนี้ทำเปนอุตสาหกรรมกันละม้างแต่ที่ร้านสูน ธัญญะ ไปคลอง 7 ยังคงฝีมือยำแบบใส่ซอสดั้งเดิมกับสามทหารเสือ แตงกวา หอมใหญ่มะเขือเทศ กินกรอบ เปรี้ยวเค็มหวานเผ็ด ได้ดุลกันแท้
 

ถ้าไม่ล้างคอด้วยมะระตุ๋นซี่โครง ก็เพิ่มสารผักให้แก่ร่างกายด้วยดอกขจรของไทยเรานี่ล่ะครับหอมระรวยอ่อนๆตีกระเทียมผัดน้ำมัน ข้าวสวยของเขาสวยจริงเปนมันยางน้อยแต่หนึบหนับ ไหนจะห่อหมกเครื่องถึง นับว่าเปนฝีมือชายทุ่งรวงทองที่ควรอนุรักษ์สืบต่อไปอย่างแท้จริง


นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,815 วันที่ 4 - 7 กันยายน พ.ศ. 2565