หวย-ห่วย-ฮ่วย

09 เม.ย. 2565 | 00:00 น.

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา โดย...บากบั่น บุญเลิศ

เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาได้
 

และหากนับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2561 เป็นต้นมา ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติเห็นชอบหลักการในการแก้ไขเพิ่มเติม ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งฯ และให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเพิ่มโทษผู้ที่ขายสลากเกินราคา เป็นจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากเดิมที่ปรับไม่เกิน 2,000 บาท 

นอกจากนี้ ยังมติห้ามจำหน่ายสลากในสถานศึกษา และห้ามจำหน่ายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ใครฝ่าฝืนมีบทกำหนดโทษในอัตราเดียวกับการจำหน่ายสลากเกินราคา คือโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

นอกจากนี้ ยังเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารงานด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น กฎหมายใหม่นี้ยังกำหนดชัดเจนว่า ให้แบ่งรายได้จากการจำหน่ายสลาก 1% เข้ากองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม ซึ่งที่ผ่านมามีการนำเงินส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์แล้ว ทั้งในการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการพนัน หรือการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา ฯลฯ
 

แสดงว่า มติ ครม.และการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องการจัดการกับการขายสลากเกินราคา “คว้าน้ำเหลว” มาตลอด
 

จนกระทั่งมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมา 1 ชุด เพื่อมาทำหน้าที่ปราบหวยแพง ด้วยการมอบหมายให้ แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล มี นายชัช ชลวร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานที่ปรึกษา ตามคำสั่งของ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 


ปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการขายสลากเกินราคา จึงเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมได้รับเสียงชื่นชมอย่างยิ่ง ว่าทำงานได้ถูกต้องตรงเป้า ท่ามกลางมรสุมที่รุมเร้าและข่าวคราวอันฉาวโฉ่ข้อครหาว่า มีการเรียกผลประโยชน์จากพ่อค้าหวยเกินราคาระหว่างปฏิบัติการกวาดล้างการขายสลากเกินราคา รวมถึงเรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่าง แรมโบ้ กับ นางจุรีพร สินธุไพร ซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
 

แต่ในทัศนะของผม ต้องแยกการดำเนินการออกเป็น 2 เรื่อง


 

ประเด็นคลิปเสียงสนทนาระหว่าง แรมโบ้ กับ นางจุรีพร สินธุไพร รวมถึงเรื่องการเรียกผลประโยชน์ เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และต้องหาข้อเท็จจริงที่จะรับฟังให้ได้ว่า มีการใช้เงินโดยผิดกฎหมายในการเลือกตั้งจริงหรือไม่
 

ประเด็นต่อมาเห็นว่า การดำเนินการกับผู้ค้าสลากกินแบ่ง และบริษัทผู้ค้าสลากออนไลน์ที่ขายเกินราคา 80 บาท ป็นเรื่องที่ต้องสนับนุนให้มีการดำเนินการให้สำเร็จและเป็นรูปธรรม เพราะมีการขายสลากเกินราคากันโจ๋งครึ่มจริงๆ
 

ใครจะโจมตีใครว่าเรียกเงิน ประเภทโจรจับโจร แลกกับการไม่กวาดล้าง ผมไม่สนใจ ผมสนแต่งว่า จะมีการกวาดล้างทำให้มีการขายสลากในราคา 80 บาทเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
 

อีกข้อครหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นควรเงี่ยหูฟังด้วยใจเป็นธรรม เพราะหากกวาดล้างขบวนการขายหวยเกินราคา เป็นการทุบหม้อข้าวบรรดามาเฟียกองสลาก กลุ่มขบวนการที่หากินด้วยธุรกิจสีเทาที่เข้ามาหาประโยชน์จากประชาชนผู้ซื้อสลากกินแบ่ง การกวาดล้างการขายเกินราคา ย่อมตกเป็นเป้าของการพยายามตอบโต้ทำลาย จากกลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์ 


 

การเดินกลางฝนย่อมต้องเปียกปอนฉันใด คนที่เดินกลางแดดย่อมเผชิญกับความร้อน ฉันนั้น
 

เพราะการกวาดล้างผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการขายสลากเกินราคานั้น เป็นการยุติการหารายได้ที่ผิดกฎหมายของกลุ่มขบวนการค้าสลากที่เป็นกอบเป็นกำ
 

เป็นกอบเป็นกำอย่างไรนะหรือ ปัจจุบันสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีการพิมพ์สลากงวดละ 100 ล้านฉบับ สำนักงานสลากขายลดให้กับตัวแทนผู้จัดจำหน่ายสลากที่มีโควต้าและผู้จองรายย่อย นิติบุคคล องค์กรการกุศล มูลนิธิ ผู้วาราชการจังหวัด ใบละ 70.40 บาท เพื่อให้ขายปลีกกับประชาชนราคาใบละ 80 บาท 
 

กำไรจากส่วนต่างจึงเท่ากับ 80-70.40 นั่นหายถึงกำไรฉบับละ 9.60 บาท 
 

การชายสลากงวดละ 100 ล้านฉบับ หากนำกำไรฉบับละ  9.60 บาท นั่นหมายถึงว่า ทั้งระบบจีกำไรกันงวดละ 960 ล้านบาท 1 เดือนมีการออกสลากขาย 2 งวด เท่ากับ 960×2 เท่ากับว่าผู้ค้าฟันกำไรเกดือนละ 1,920 ล้านบาท  


 

1 ปี มี 12 เดือน กำไรจะเท่ากับ 1,920×12 ผู้ค้าสลากทั้งระบบจะทำกำไรปีละ 23,040 ล้านบาท 
 

เงินก้อนนี้ไปไปตกอยู่ในมือใครบ้าง เรารู้กันอยู่แก่ใจ
 

แต่ในความจริง สลากที่ได้รัจัดสรรมาขาย 80 บาท นั้น มีการผ่องถ่ายขายออกจากมือแรก มาถึงมือที่สอง มาถึงมือขาใหญ่มาเฟีย พวกเจ้าพ่อเจ้าแม่หวย พวกรวบรวมหวยชุด ไม่เคยพอใจกับกำรี่กำไรที่ได้ 9.60 บาท/ฉบับ จากราคาใบละ 80 บาท จึงกลายเป็นใบละ 85-90 บาท 
 

เงินกำไรส่วนต่างแค่ใบละ 5-10 บาท ก็ตกงวดละ 500-1,000 ล้านบาท เงินก้อนนี้จึงตกอยู่ในมือมาเฟียพ่อค้าหวยขาใหญ่ทั้งหมด 


 

เช่นเดียวกับยี่ปั้วซาปั๊วที่รับมากระจายให้นายทุนต่างจังหวัดทุนใบละ 85-90 กลายเป็น 90-95 บาท ฟาดกำไรกันตรงนี้อีกใบละ 3-5บาท กำไรจะตกถึงมือกลุ่มนี้อีก 300-500 ล้านบาทต่องวด นี่จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมรายย่อยสะพายแผงขายหวยย่อยใบละ 90-100 บาท 
 

ผลสะท้อนจากการกวาดล้างล่าสุด “นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์” ผู้บริหารกองสลากพลัส CEO ออกมาให้ข่าวว่า สำหรับ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” งวด 16/4/65 หรือในวันที่ 16 เมษายน 2565 จะเปิดขายสลากให้ลูกค้าในราคา 80 บาททุกใบ ไม่มีค่าบริการเพิ่มจากเดิมที่ได้ตั้งไว้จะเป็น ราคารับซื้อบวก 5 บาท แต่งวดนี้ “กองสลากพลัส” บวกเพิ่มเพียง 1 บาทเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้ซื้อลอตเตอรี่ในราคา 80 บาท
 

คำถามคือ ถ้าไม่มีการกวาดล้าง ออกตรวจจับการค้าสลากออนไลน์ 3 ราย “มังกรฟ้า สลากพลัส เสือแดง” จากชุดปฏิบัติการนี้ เราจะเห็นคำประกาศของเจ้าของสลากออนไลน์หน้าไหนที่เคยขายเกินราคาอยู่ จะออกมากล้าประกาศขายในราคา 80 บาทหรือไม่
 

หากไม่มีการจับกุมกวาดล้างเกิดขึ้นเราจะจัดการกับผู้รับโควต้า รายย่อย มูลนิธิร่วม 13,000 รายที่นำสลากไปขายออนไลน์กันเกินราคาหรือไม่
 

ขณะที่ข้อมูลที่ได้รับจากชุดปฏิบัติการ พบว่า เป็นสลากที่จัดสรรให้ตัวแทนรายย่อย 1,649 เล่ม หรือ 1,181 ราย ,ในส่วนของสมาคม/องค์กร 2,281 เล่ม จาก 181 องค์กร และเป็นสลากในส่วนของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ 16,345 เล่ม หรือ 7,602 ราย  รวมจำนวนสลาก 20,275 เล่ม จากตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สมาคม/องค์กร และผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ กว่า 8,964 ราย 
 

เราจะทำอย่างไรกับตัวแทนรายย่อย และผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ที่รับรู้ในสัญญา หลักเกณฑ์ในการรับสลากไปจำหน่ายว่า ห้ามตัวแทนจำหน่ายไปขายสลากเกินราคาที่กำหนดไว้ในสลาก ไม่ว่าจะเป็นการขายโดยเรียกร้องให้ผู้ซื้อ ซื้อสิ่งของอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ และรวมทั้งการร้องขอประโยชน์ในลักษณะอื่นใด
 

ถ้าผู้ขายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่าผิดสัญญา เช่นเดียวกับการนำสลากของตนไปขายให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปรวมชุด หรือแลกเปลี่ยนสลากกับผู้อื่น หรือหากตรวจพบว่า สลากของผู้ขายไปวางไว้เพื่อเตรียมจำหน่ายที่จุดจำหน่ายของผู้อื่นนอกเหนือจากจุดที่ได้ระบุไว้ ให้สันนิษฐานว่า ไม่ได้ขายสลากด้วยตนเอง และถือว่าเป็นการผิดสัญญา ซึ่งกองสลาก มีสิทธิบอกเลิกสัญญา หรือยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าได้ทันที  เช่นเดียวกับ สมาคม/องค์กร 
 

นี่คือประโยชน์ของการกวาดล้างการขายสลากเกินราคา กวาดล้างไป ใครมีปัญหาก็จัดการไป แต่ต้องทำให้สลากมีการขาย 80 บาทให้ได้ ใครทำไม่ได้ก็ลาออกไปได้เลย!