“อากู๋” เสนอ ประธาน.กสทช.ต่อใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ลั่นคลื่น 3500 ต้องรักษาไว้

26 มี.ค. 2567 | 06:29 น.

สมาคมทีวีดิจทัล ถก ประธาน กสทช. ยื่นข้อเสนอใบอนุญาตหมดอายุปี 72 ควรต่อสัญญา “อากู๋” เผยไม่กีดกันรายใหม่ ส่วนคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์ กสทช.ไม่ควรเอาคืนต้องรักษาไว้ถ้าไม่มีคลื่นโทรทัศน์แห่งชาติล่มสลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานในวันนี้ 26 มีนาคม 2567  นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ได้เข้าพบ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. รวมทั้งกรรมการ กสทช.อีก 2 คน คือ นายต่อพงศ์ เสลานนท์ และ พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร โดยใช้เวลาประชุมราว 2 ชั่วโมงเริ่มประชุมเวลา 10.30 น. เป็นต้นไป

 

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GMM GRAMMY เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สมาคมทีวีดิจิทัลได้เข้าพบ  นายแพทย์คลินิกสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ในครั้งนี้เนื่องจากหาทางออกเกี่ยวกับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ที่กำลังจะสิ้นสุดใบอนุญาตในปี พ.ศ.2572 โดยทางสมาคมฯได้ยื่นข้อเสนอด้วยกัน 2 เรื่องดังนี้

เรื่องแรก คือ สำนักงาน กสทช.ควรต่อสัญญาทีวีดิจิทัลทุกช่องเพราะว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนด้านดิจิทัลมากมาย โดยธรรมชาติอุตสาหกรรมควรจะต้องเดินหน้าต่อ กลุ่มทีวีดิจิทัล ไม่ได้กีดกันผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรมเรายินดีแต่ต้องอยู่ในกติกาเดียวกันไม่มีข้อจำกัดๆ

เรื่องที่สอง คือ คลื่นความถี่ 3500 เมกะเฮิรตซ์ สำนักงาน กสทช.ควรรักษาไว้ไม่ควรนำคลื่นความถี่ของทีวีดิจิทัล ออกมาประมูล ถ้าไม่มีคลื่นความถี่ 3500 เมกะเฮิรตซ์ โทรทัศน์แห่งชาติล่มสลายทันที เพราะผู้ชมทีวีทั้งหมดอยู่ในแซทเทิลไลท์ทีวี หรือ ดาวทียม ดังนั้น สำนักงาน กสทช. ต้องรักษาคลื่นความถี่ 3500 เมกะเฮิรตซ์เอาไว้ เพื่อให้ประชาชนได้รับชมทีวีดิจิทัล

สมาคมทีวีดิจิทับ เข้า พบประธาน กสทช.

 

สำหรับรายละเอียดที่กลุ่มทีวีดิจิทัล เสนอสรุปดังนี้ ปัจจุบันคนดูผ่านกล่องทีวีดิจิทัลมีเพียง 10% และ 60% ดูผ่านดาวเทียม หาก สำนักงาน กสทช.นำคลื่นความถี่ 3500 เมกะเฮิรตซ์ คืน ผู้รับชมทีวีจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ ส่งผลให้ยอดคนดูลดลง โฆษณาลดลง

ขณะที่ คลื่น 3500 จะกระทบ C Band ถ้าเอาไปใช้ 5G  ตามแนวของ ITU ถ้าเปลี่ยนไปใช้ในทางโทรคมจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งทางสถานีและทางผู้ใช้บริการใน 5 ปีที่เหลือก่อนหมดใบอนุญาต อยากให้ดูแล C Band

ส่วนทางด้านแหล่งข่าวจากสำนักงาน กสทช. ชี้แจงว่า ปัญหาคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์อาจมีการดึงบางส่วนมาเป็นคลื่นโทรทัศน์และบางส่วนเป็นโทรคมนาคมจะมีผลกระทบหรือรบกวนในภาคอื่นหรือไม่ ปัจจุบันจะต้องมีการจัดสรรคลื่นอื่นๆอีก เช่น 2G 3G อาจนำคลื่น3500 ไปจัดทำ Private Network แต่ก็ต้องดูผลกระทบและภาพรวม ดังนั้นการจัดการเรื่องต่างๆต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายถ้าหากมีผลกระทบจะต้องมีการเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรมปัจจุบัน กสทช มีคณะทำงาน-อนุกรรมการในการแก้ไขกฎหมายแล้ว การออกประกาศอาจทำได้เร็วกว่าให้มาเป็นกฎหมายลูกเพื่อมากำหนดในการประมูลหรือไม่ประมูลคลื่นความถี่การประมูลเปิดให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าร่วมได้ โดยใช้ประกาศกำหนด

 ขณะที่ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างศึกษาโอกาส และความเป็นไปได้ในการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ซึ่งจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะแนวโน้มในอีก 5 ปีข้างหน้า การกำหนดนโยบายจะพยายามฟังรอบด้าน เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่กระทบเลย อย่างไรก็ดี นอกจากธุรกิจทีวีดิจิตอลแล้ว ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังดู satellite TV และยังมีประเด็นเรื่องอัตลักษณ์แห่งชาติ (National Identity) และความสำคัญด้านวัฒนธรรม ซึ่งเป็นคุณูปการที่ทีวีดิจิตอลได้สร้างสรรค์แก่ประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้การดำเนินการใด ๆ จะต้องสอดคล้องกับกฎหมาย

 

ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์

 สำหรับเรื่องนี้ที่อยู่ระหว่างการศึกษา อาจนำมาใช้ได้ในหลายกรณี อาทิ Private 5G รวมถึงขยาย Bandwidth สำหรับการใช้งาน 5G ในประเทศ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังคงมีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ในการนำคลื่นความถี่ย่านดังกล่าวมาใช้ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ซึ่งหน่วยงาน GSMA ภูมิภาค Asia-Pacific (APAC) ก็เคยแสดงข้อกังวลในประเด็นนี้ นอกจากนี้ อาจต้องพิจารณาความต้องการของตลาด ความพร้อมของอุตสาหกรรมที่จะนำคลื่นย่านนี้มาใช้ ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ รวมถึงความพร้อมของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่จะเข้าประมูลคลื่นความถี่ย่านนี้