เปิดเบื้องหลัง-ภารกิจ “ทักษิณ” เข้าพรรคเพื่อไทย

27 มี.ค. 2567 | 03:00 น.

ทำไม “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ต้องเดินทางไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่นี่มีคำตอบ... : รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3978

บรรยากาศ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ตึก OAI ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อเวลา 13.34 น. วันที่ 26 มี.ค. 2567 เป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพรรค

นายทักษิณ มาถึงพรรคเพื่อไทย ด้วยรถยนต์เบนท์ลีย์ ทะเบียน พค 9999 กรุงเทพมหานคร โดยสวมเสื้อเชิ้ตลายทางขาวและฟ้า สวมทับด้วยเสื้อสูทสีกรมท่า และสวมกางเกงยีนส์ โดยไม่ได้สวมเฝือกคอ

ทันทีที่ลงจากรถ นายทักษิณ รีบตรงเข้าไปหามวลชนที่มารอต้อนรับ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดร้อง และตะโกนดังสนั่นว่า “เรารักทักษิณ” ขณะที่ใบหน้าของนายทักษิณ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และได้เข้ารับดอกกุหลาบจากมวลชนที่มารอต้อนรับ

“ทักษิณ”เข้าพรรครอบ 17 ปี

จากนั้น นายทักษิณ ได้เดินเข้ามาสวมกอด อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มายืนรอต้อนรับอยู่หน้าที่ทำการพรรค ทั้งนี้ มีบางช่วงที่นายทักษิณ จดจำมวลชนเสื้อแดงที่เคยร่วมต่อสู้กันมาได้ ก็พยายามที่จะเข้าไปพูดคุยและสวมกอด พร้อมถามสารทุกข์สุกดิบว่า “สบายดีหรือไม่ และขอบคุณที่มารอต้อนรับ” และพยายามหยุด เพื่อที่จะถ่ายรูปกับทุกคน

ขณะบรรดารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แกนนำ และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่มารอต้อนรับด้วย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.วัฒนธรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายสุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.คลัง และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย 

อย่างไรก็ตาม บรรดาแกนนำและรัฐมนตรีของพรรไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายทักษิณ เนื่องจากมีมวลชนจำนวนมากเข้ามาหา นายทักษิณ

ขณะที่เมื่อเข้ามาภายในอาคารที่ทำการพรรค ก็มีมวลชนอีกส่วนหนึ่งที่รอต้อนรับอยู่ ซึ่ง นายทักษิณ ก็ได้เข้าไปทักทายรับดอกไม้ ทำให้มวลชนบางคนถึงกับหลั่งน้ำตา ที่ได้เจอ นายทักษิณ อีกครั้งในรอบ 17 ปี และตะโกนเรียก “ท่านนายกๆ” บางคนก็เข้ามาสวมกอดและหอมแก้มนายทักษิณด้วย ซึ่งนายทักษิณ ใช้เวลาราว 10 นาที 

                      เปิดเบื้องหลัง-ภารกิจ “ทักษิณ” เข้าพรรคเพื่อไทย

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้นำ นายทักษิณ ขึ้นไปยังชั้น 8 ซึ่งเคยเป็นห้องทำงานเก่าของ นายทักษิณ เพื่อพูดคุยกับบรรดารัฐมนตรี ข้าราชการการเมืองในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะลงไปชั้น 7 เพื่อคุยกับส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

การเดินทางเข้ามาอาคารที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ถือเป็นครั้งแรกของ นายทักษิณ ในรอบ 17 ปี นับตั้งแต่การประกาศยุบสภา ก่อนการรัฐประหาร เมื่อ 19 ก.ย. 2549 ซึ่งในเวลานั้นอาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการของพรรคไทยรักไทย

ส.ส.ฮึกเหิม-มีกำลังใจ 

ต่อมา น.ส.แพทองธาร เปิดเผยว่า นายทักษิณ ได้พูดกับส.ส. รัฐมนตรี บอกว่าไม่ได้มา 17 ปี อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปเยอะ คุณพ่อทักทายส.ส.เก่า ส.ส.ใหม่ ซึ่งหลายคนรู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่ตอนนี้เป็นรุ่นลูก รุ่นหลานแล้ว 

เมื่อถามว่า นายทักษิณ ได้แนะนำการทำงานหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี แต่ในเรื่องการทำงานเป็นเหมือนคนแก่ ได้กลับบ้านอีกครั้ง ท่านก็มีความสุขดี เชื่อว่าหลายคนมีความสุขที่ได้เจอคุณพ่อ ที่เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เป็นนายกฯ ที่มีผลงาน ทำให้ส.ส.มีกำลังใจ เพราะรัฐบาลไทยรักไทย ได้ทำงานให้ประชาชนอย่างไร ทำให้ส.ส. มีความฮึกเหิม มีกำลังใจทำงานมากขึ้น เป็นความรู้สึกที่ดี 

เมื่อถามว่า นายทักษิณ จะเดินทางเข้ามาพรรคเพื่อไทยบ่อยขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้เข้าพรรคบ่อย แต่หลังจากนี้จะชวนมาดูห้องทำงานของตน ในฐานะลูกสาว ไม่ใช่ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะเราสนิทกันมาก เมื่อพ่อได้เห็นอะไรที่เป็นความเคลื่อนไหวของลูกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ท่านก็ดีใจ

ปัด“ทักษิณ”ครอบงำพรรค

เมื่อถามว่านายทักษิณ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะหากมาเช่นนี้ อาจถูกมองว่าเป็นคนนอกที่ครอบงำพรรค น.ส.แพทองธาร ตอบว่า การจะสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แล้วแต่ท่าน คงตอบไม่ได้ 

ส่วนที่มองว่าจะมีการครอบงำนั้น คิดว่าคุณพ่อไปไกลกว่าเป็นสมาชิกพรรค ท่านสามารถเป็นที่ปรึกษา ทำประโยชน์ให้ประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาแค่ในพรรคเพื่อไทย แต่รัฐมนตรี หากอยากปรึกษา สามารถทำได้ รวมถึงคนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ท่านก็สามารถทำได้ 

"นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาดิฉันมาทั้งชีวิต ตั้งแต่เด็ก ปฏิเสธไม่ได้ การจะบอก พ่อลูก แล้วมาครอบงำ คงไม่ใช่" 

ส่วนนายทักษิณ มาปรากฎตัว จะทำให้คะแนนของพรรคเพื่อไทยกลับมาดีกว่าพรรคก้าวไกล หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงแล้วแต่ประชาชนจะตัดสิน 

                        เปิดเบื้องหลัง-ภารกิจ “ทักษิณ” เข้าพรรคเพื่อไทย

“ทักษิณ”ผนึก ส.ส.

อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันว่า การที่ นายทักษิณ เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ เพื่อคุมเกมในระดับพื้นที่เลือกตั้ง, เป็นการไปรับฟังปัญหา ส.ส. สร้างความสนิทสนมให้เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาระยะห่างของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ  กับ บรรดาส.ส.

นอกจากนั้น ยังต้องการลดแรงกระเพื่อมต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ที่ใกล้จะปรับ ครม. เข้ามาทุกขณะ รวมทั้งต้องการสร้างฐานคะแนนเสียงให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

อีกเหตุผลคือ ต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง ส.ส. 2 เจเนอร์เรชั่น  ซึ่งคือ ส.ส.รุ่นใหม่ กับ ส.ส.รุ่นเก่า

ตามแผน ทักษิณ ชินวัตร ดูแลส.ส รุ่นเก่า-รุ่นเก๋า ขณะที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ดูแล ส.ส.รุ่นใหม่ ส่วน เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คุมเกมฝ่ายบริหาร

ทั้งหมดทั้งมวล มีเป้าหมายใหญ่คือ หวังทวงแชมป์เลือกตั้ง เอาชนะ “พรรคก้าวไกล” ให้ได้ หลังจากต้องเสียแชมป์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

ภารกิจ“ทักษิณ”

ขณะเดียวกัน นับแต่ นายทักษิณ ได้รับการพักโทษกลับไปพำนักยัง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2567 มีการวิเคราะห์กันว่า นายทักษิณ จะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง ที่นักการเมืองจะวิ่งเข้าหา, เป็นศูนย์กลางข้าราชการที่จะวิ่งเข้าหา, เป็นศูนย์กลางที่นักธุรกิจจะวิ่งเข้าหา

แต่สำคัญคือ ทำอย่างไรจะเอาน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กลับบ้านมาให้ได้

บทบาทของ “ทักษิณ ชินวัตร” นับแต่นี้ไป จึงน่าจับตาเป็นอย่างมาก

+++++++++

สงคราม “5 ทัพ” ถล่มทักษิณ

1.ทัพสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)  นายสมชาย แสวงการ เรียกร้องให้ภาคประชาชนร่วมตรวจสอบ นายทักษิณ ในทุกช่องทาง

-ร้อง ป.ปช.-นายกฯ-ผบ.ตร.-ผอ.รพ.ตำรวจ-แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ-รมต.ยุติธรรม-ปลัดกระทรวงยุติธรรม-อธิบดีกรมราชฑัณฑ์-ผบ.เรือนจำ-อธิบดีกรมคุมประพฤติ-คณะกรรมการพักโทษ

-ถวายฎีกา เพื่อตรวจสอบข้าราชการ-ผู้ว่าราชการจังหวัด-อธิบดี ที่ไปพบนายทักษิณ

2.ทัพหมอวรงค์ – นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน -ป.ป.ช. ให้สอบหน่วยงานรัฐปล่อยปละละเลย ไม่บังคับใช้กฎหมายกับ นายทักษิณ ให้นอนโรงพยาบาลตำรวจ 2 เดือน ขัดระเบียบกรมราชฑัณฑ์หรือไม่

3.ทัพแจ๊ค-วัชระ เพชรทอง ยื่นหนังสือร้อง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ตรวจสอบอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับพวก และ ขรก.การเมือง กระทำผิดจริยธรรม มีพฤติการเอื้อประโยชน์ทักษิณ

4.ทัพสนธิญา - สนธิญา สวัสดี รวมรายชื่อข้าราชการที่ไปไปต้อนรับนายทักษิณ ที่เชียงใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นนักโทษชาย ส่ง ป.ป.ช.พิจารณาว่าผิดหรือไม่ ประโยชน์ตัวเองหรือของใคร

5. ทัพคปท.-กองทัพธรรม กดดันกรมราชทัณฑ์ ให้ตรวจสอบคณะกรรมการพักโทษ นำ นายทักษิณ เข้าคุก

ทั้ง 5 ทัพ มี “นักการเมือง-อดีตผู้พิพากษา-ขุนทหาร” กำกับหลังฉาก หวังการเมืองเปลี่ยน-เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี