คอยคำปรับโลโก-แพ็กเกจจิ้ง รุกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

08 ส.ค. 2559 | 06:30 น.
ดอยคำ สบช่องเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพมาแรง เร่งรีแบรนด์ปรับภาพขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูง พร้อมคลอดสินค้าใหม่ 4 รายการรุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ก่อนทุ่ม 1,000 ล้านบาทปรับปรุงโรงงานในจ.บุรีรัมย์รับการเติบโตอีก 2 ปีข้างหน้า

นายสรภัส สุตเธียรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทได้ทำการรีแบรนด์ ปรับโลโกเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่ให้ทันสมัย มุ่งเน้นเจาะกำลังซื้อกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ หรือที่เรียกว่ากลุ่ม Masstige อายุตั้งแต่ 20-30 ปี จากเดิมที่มีฐานลูกค้าที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอีก 4 รายการ ได้แก่ น้ำเสาวรสผสมสารสกัดจากใบหญ้าหวาน น้ำมะเขือเทศม็อกเทล ขนาดใหม่ 1 ลิตร เครื่องดื่มเจียวกู้หลานและดอกคำฝอย ผสมสารสกัดจากใบหญ้าหวาน และน้ำมะเขือเทศ low sodium ขนาดใหม่ 500 มล. โดยจะเน้นทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ และจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ทดลองชิมน้ำผลไม้ ณ จุดขาย
ขณะเดียวกันยังได้เตรียมงบประมาณลงทุนในช่วง 2 ปีข้างหน้า จำนวน1,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงงานในจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันดอยคำ มีโรงงานทั้งหมด 4 แห่ง ใน 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย สกลนครและบุรีรัมย์

นายสรภัส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีแผนขยายช่องทางการทำตลาด ในรูปแบบแฟรนไชส์ของร้านดอยคำ ภายใต้ชื่อ "ครอบครัวดอยคำ" ภายใต้3 รูปแบบ ได้แก่ 1.เป็นร้านที่ขายผลิตภัณฑ์ดอยคำ อาหาร และเครื่องดื่มกาแฟ 2. เป็นร้านที่เป็นร้านที่ขายผลิตภัณฑ์ดอยคำ และเครื่องดื่มกาแฟ และ3.เป็นร้านที่ขายผลิตภัณฑ์ดอยคำ ในปัจจุบันมีร้านแฟรนไชส์แล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ลำปาง และสกลนคร และตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 77 จังหวัดภายใน 5 ปี

สำหรับเป้าหมายยอดขายของบริษัทในช่วงสิ้นปีนี้ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 15 % จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 1,480 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายหลักมาจากน้ำผลไม้ 70 % และอื่นๆ ได้แก่ แย้มผลไม้ ผลไม้อบแห้ง และข้าว 30 % ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศและอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนจำหน่าย ในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และมีแผนจะไปโรดโชว์และหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม คาดว่าภายใน 2-3 ปี จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 15 % จากปัจจุบันที่มีอยู่ 10%

ทั้งนี้ตลาดรวมน้ำผลไม้พรีเมียมและมีเดียม ในปี ที่ผ่านมามีมูลค่าที่ 6,000 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยดอยคำ มีส่วนแบ่งตลาดที่ 20 % เป็นอันดับ 3 รองจากผู้นำตลาดอย่างทิปโก้ ที่มีส่วนแบ่งตลาดที่ 28 % และ มาลี 22 %

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559