พาณิชย์เล็งเป้าต่อไปอินโดฯ-ปินส์ ชู‘ข้าวอินทรีย์-ข้าวสี’ตัวเลือกใหม่

03 ส.ค. 2559 | 08:00 น.
ผู้ส่งออกห่วงส่งออกข้าวไทยไปสิงคโปร์ครึ่งหลังแผ่ว หลังราคาสูงกว่าคู่แข่ง แนะ ก.พาณิชย์ให้เอกชนช่วยทำตลาดสินค้าใหม่ได้ผลกว่าลุยเอง ขณะ“อภิรดี” ลั่นปีนี้ไทยแซงอินเดียขึ้นเบอร์1 ในแดนลอดช่องแน่ ให้ความมั่นใจผู้นำเข้า ไทยหมดยุคแทรกแซงราคาข้าว เป้าต่อไปเดินสายเจาะตลาดอินโดฯ ฟิลิปปินส์หวังนำเข้าข้าวไทยครึ่งหลัง ชูข้าวอินทรีย์-ข้าวสี สร้างทางเลือกใหม่ผู้บริโภค

[caption id="attachment_77136" align="aligncenter" width="700"] สถิติการส่งออกข้าวไทยไปสิงคโปร์ สถิติการส่งออกข้าวไทยไปสิงคโปร์[/caption]

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า แม้ข้าวไทยจะสามารถครองตลาดเป็นอันดับ 1 ในสิงคโปร์ในปัจจุบัน แต่ปริมาณการส่งออกข้าวไปยังสิงคโปร์มีแนวโน้มลดลง จากราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งขัน เช่นสูงกว่าข้าวเวียดนามประมาณตันละ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นไทยจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นและรักษาคุณภาพข้าวให้คงที่ พร้อมกับเร่งทำการตลาดเพื่อสร้างการจดจำข้าวไทยให้กับผู้ซื้อ

ทั้งนี้เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของข้าวที่มีสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวนิลดำ ที่เริ่มได้รับความนิยมแต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากยังไม่มีการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง อีกทั้งคุณภาพของข้าวสีไทยเองยังไม่เสถียรยังมีปนกับข้าวชนิดอื่นทำให้ทำตลาดยาก ดังนั้นภาครัฐเองจะต้องเน้นการทำการตลาดให้มาก และต้องร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีตลาดส่งออกข้าวอยู่ในประเทศนั้นให้เป็นผู้ทำตลาด เพราะเอกชนมีสินค้าที่ต้องส่งออกไปอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มสินค้าใหม่เข้าไปซึ่งทำได้ง่ายกว่าการที่ภาครัฐจะเข้าไปทำตลาดเอง ขณะที่สิ่งที่ภาครัฐควรทำคือการปรับปรุงคุณภาพข้าวสี การพัฒนาสายพันธุ์ข้าว และให้ความรู้กับชาวนา หลังจากนั่นค่อยมาทำโปรโมชัน

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์(พณ.) กล่าวภายหลังการหารือกับกลุ่มผู้ค้าข้าวและผู้นำเข้าข้าว ของประเทศสิงคโปร์(ระหว่างการเยือน 26-28 ก.ค.59)ว่า กระทรวงพาณิชย์และเอกชนผู้ส่งออกข้าวไทย ได้ยืนยันนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันถึงการดูแลข้าวในประเทศและ จะไม่มีการเข้าไปแทรกแซงราคาข้าวผ่านนโยบายการจำนำข้าว ที่เป็นความกังวลของผู้ค้าข้าวและผู้นำเข้าข้าวที่ไม่อยากให้มีการแทรกแซงราคาเพราะจะทำให้เกิดความผันผวนของราคา ในฐานะรัฐบาลได้ยืนยันไปว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการแทรกแซงราคา แต่ได้ให้การสนับสนุนด้านอื่น ๆ แทน เช่น ด้านปัจจัยการผลิต เรื่องเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อรักษาคุณภาพข้าวไทย

"มั่นใจว่าตลาดข้าวไทยในสิงคโปร์ปี 2559 จะกลับมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 (จาก 4-5 ปีที่ผ่านมาไทยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 รองจากอินเดีย)โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคมไทยส่งออกข้าวไปสิงคโปร์ในแล้วกว่า 50% ของที่เคยส่ง ทั้งนี้ในแต่ละปีสิงคโปร์นำเข้าข้าวจากไทยเฉลี่ย 1.3 แสนตัน เชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง"

สำหรับแผนการทำตลาดข้าวของกระทรวงพาณิชย์นับจากนี้ จะเดินสายโปรโมตข้าวในต่างประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ และจะเร่งทำตลาดข้าวเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น ทั้ง ข้าวเกษตรอินทรีย์ ข้าวออร์แกนิก และข้าวสีของไทย ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ขณะที่นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เอกชนต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เดินทางเยือนประเทศผู้นำเข้าอื่นๆด้วย เช่น กลุ่มประเทศในเอเชีย ทั้ง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้าและขยายปริมาณ และมูลค่าการส่งออกข้าวให้เพิ่มขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,179
วันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559